เคทีซีเผยปีหน้าทำธุรกิจด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พร้อมงดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเน้นดูแลสุขภาพลูกค้าเก่า ยันการแข่งขันไม่รุนแรง ล่าสุดออกบัตรเครดิตประดับเพชรและทอง"เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส เวิลด์ มาสเตอร์การ์ด" จับลูกค้าระดับบน คาดปีนี้มีผู้ถือบัตร 500 ใบ
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ เคทีซีจำเป็นต้องระมัดระวังการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2552 บริษัทจำเป็นต้องเข้มงวดตามภาวะการณ์และตามผันผวนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่ายจำเป็นต้องใช้เหตุผลและความเหมาะสมในการอนุมัติมากขึ้น แต่ทั้งนี้ในเรื่องของกิจกรรมทางการตลาดบริษัทยังคงมีต่อเนื่อง แต่ในส่วนของกิจกรรมใหญ่และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ใช้ต้นทุนสูง บริษัทคงจะต้องของดออกไปก่อน เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการคุมค่าใช้จ่ายที่ตั้งเป้าหมายไว้
"แผนการดำเนินงานธุรกิจปีหน้ายอมรับว่าจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะต้องเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้หยุดกิจกรรมทางการตลาด แต่อาจจะงดการทำกิจกรรมใหญ่แทน ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีหน้าจะเน้นในเรื่องการพัฒนาองค์กรและพนักงานให้มีศักยภาพมากขึ้น แม้จะมีการลดค่าใช้จ่ายทำการตลาดใหญ่ๆก็ตาม ก็ไม่น่ากังวล เพื่อให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ความผันผวนโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ "นายนิวัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ แม้ในช่วงปีหน้าจะไม่เห็นแคมเปญขนาดใหญ่ แต่บริษัทก็ไม่กังวลเรื่องฐานลูกค้าจะหายแต่อย่างไร ที่สำคัญบริษัทหันมาเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นหลัก เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความสามารถในการใช้จ่ายสูงและมีคามเสี่ยงน้อย
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานธุรกิตบัตรเครดิต บริษัทบัตรกรุงไทย กล่าวว่า แผนธุรกิจในปีหน้าได้ทำเสร็จแล้ว แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ยอมรับว่ามองได้ยากมากว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่คงจะมีการชะงักงันระยะสั้น แต่หากปัญหาวิกฤตการเงินโลกจบได้ภายในปีนี้ก็คาดว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจะกลับมาเร็ว ส่วนภาคส่วนอื่นน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เนื่องจากขณะนี้ดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มปรับลดลง ก็น่าจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ทั้งนี้ในปีหน้าเคทีซีจะไม่เน้นเรื่องของการแข่งขัน และเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดจะมีไม่มากนัก และสิ่งที่เคทีซีจะเน้นคือการดูแลสุขภาพอร์ตลูกค้าเก่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจะมีการซบเซา เพื่อไม่ให้สินเชื่อกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ส่วนการอนุมัติบัตรใหม่จะมีความระมัดระวังมากขึ้น
"เราจะเน้นดูแลสุขภาพของพอร์ตไม่ให้เกิดหนี้เสีย การอนุมัติก็คงเน้นมากขึ้น จะลงไปดูในบางอุตสาหกรรม หรือทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และจะเน้นออกบัตรที่มีความเสี่ยงน้อย ส่วนการปรับฐานรายได้ของผู้ที่จะสมัครบัตรเคดริตนั้นคงไม่ทำ ตอนนี้ก็ถือว่ามีความเข้มงวดมาก และคงจะหันไปยังตลาดระดับบนมากขึ้น"
สำหรับฐานบัตรเครดิตปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้านใบ โดยเป็นบัตรที่มียอดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง (แอคทีฟ) อยู่ที่ 80% ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซีมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดการกดเงินสดล่วงหน้ามีลดลงเล็กน้อย และเอ็นพีแอลอยู่ที่กว่า 1%
นายธวัชชัย กล่าวว่า ล่าสุดเคทีซีได้เปิดตัวบัตรเครดิต "เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส เวิลด์ มาสเตอร์การ์ด" ซึ่งเป็นบัตรเครดิตประดับเพชรและทองใบแรกของเมืองไทย แต่เป็นรายที่ 3 ของโลก โดยมุ่งหวังจะขยายฐานลูกค้าระดับบนอย่างจริงจัง โดยผู้ถือบัตรดังกล่าวจะต้องได้รับการเชิญเข้ามาเป็นสมาชิกเท่านั้น ซึ่งบัตรนี้จะมุ่งเน้นสิทธิประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้ถือบัตรเครดิตดังกล่าวกว่า 500 ใบ และจะมียอดการใช้จ่ายต่อคนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่เคทีซีจะเชิญให้มาถือบัตรนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกบัตรให้แล้ว 6-7 ราย และได้มีการส่งหนังสือเชิญแล้วประมาณ 200 ราย โดยวงเงินที่ให้ในบัตรนั้นจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท
"เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวบัตรเครดิตล้ำค่าอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ได้จัดแคมเปญท่องเที่ยวพิเศษสุด "Dream Excursion" สำหรับสมาชิกบัตรที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 20 ท่านแรก ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551- 9 กุมภาพันธ์ 2552 (ขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป) จะได้รับรางวัล อาทิ แพ็คเกจท่องเที่ยวระดับเฟิร์สท์ คลาส ที่ให้ผู้โชคดีสามารถออกแบบการเดินทางเองได้ตามใจชอบกับทุกจุดหมายของการบินไทย พร้อมการพักผ่อนสุดหรูอย่างมีสไตล์ในโรงแรมชั้นนำทั่วโลกในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินการบินไทย รวมมูลค่ารางวัลกว่า 2.8 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคอนเซ็ปท์การมอบรางวัลในลักษณะนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกลุ่มนี้"
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ เคทีซีจำเป็นต้องระมัดระวังการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2552 บริษัทจำเป็นต้องเข้มงวดตามภาวะการณ์และตามผันผวนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่ายจำเป็นต้องใช้เหตุผลและความเหมาะสมในการอนุมัติมากขึ้น แต่ทั้งนี้ในเรื่องของกิจกรรมทางการตลาดบริษัทยังคงมีต่อเนื่อง แต่ในส่วนของกิจกรรมใหญ่และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ใช้ต้นทุนสูง บริษัทคงจะต้องของดออกไปก่อน เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการคุมค่าใช้จ่ายที่ตั้งเป้าหมายไว้
"แผนการดำเนินงานธุรกิจปีหน้ายอมรับว่าจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะต้องเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้หยุดกิจกรรมทางการตลาด แต่อาจจะงดการทำกิจกรรมใหญ่แทน ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีหน้าจะเน้นในเรื่องการพัฒนาองค์กรและพนักงานให้มีศักยภาพมากขึ้น แม้จะมีการลดค่าใช้จ่ายทำการตลาดใหญ่ๆก็ตาม ก็ไม่น่ากังวล เพื่อให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ความผันผวนโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ "นายนิวัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ แม้ในช่วงปีหน้าจะไม่เห็นแคมเปญขนาดใหญ่ แต่บริษัทก็ไม่กังวลเรื่องฐานลูกค้าจะหายแต่อย่างไร ที่สำคัญบริษัทหันมาเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นหลัก เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความสามารถในการใช้จ่ายสูงและมีคามเสี่ยงน้อย
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานธุรกิตบัตรเครดิต บริษัทบัตรกรุงไทย กล่าวว่า แผนธุรกิจในปีหน้าได้ทำเสร็จแล้ว แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ยอมรับว่ามองได้ยากมากว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่คงจะมีการชะงักงันระยะสั้น แต่หากปัญหาวิกฤตการเงินโลกจบได้ภายในปีนี้ก็คาดว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจะกลับมาเร็ว ส่วนภาคส่วนอื่นน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เนื่องจากขณะนี้ดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มปรับลดลง ก็น่าจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ทั้งนี้ในปีหน้าเคทีซีจะไม่เน้นเรื่องของการแข่งขัน และเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดจะมีไม่มากนัก และสิ่งที่เคทีซีจะเน้นคือการดูแลสุขภาพอร์ตลูกค้าเก่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจะมีการซบเซา เพื่อไม่ให้สินเชื่อกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ส่วนการอนุมัติบัตรใหม่จะมีความระมัดระวังมากขึ้น
"เราจะเน้นดูแลสุขภาพของพอร์ตไม่ให้เกิดหนี้เสีย การอนุมัติก็คงเน้นมากขึ้น จะลงไปดูในบางอุตสาหกรรม หรือทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และจะเน้นออกบัตรที่มีความเสี่ยงน้อย ส่วนการปรับฐานรายได้ของผู้ที่จะสมัครบัตรเคดริตนั้นคงไม่ทำ ตอนนี้ก็ถือว่ามีความเข้มงวดมาก และคงจะหันไปยังตลาดระดับบนมากขึ้น"
สำหรับฐานบัตรเครดิตปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้านใบ โดยเป็นบัตรที่มียอดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง (แอคทีฟ) อยู่ที่ 80% ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซีมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดการกดเงินสดล่วงหน้ามีลดลงเล็กน้อย และเอ็นพีแอลอยู่ที่กว่า 1%
นายธวัชชัย กล่าวว่า ล่าสุดเคทีซีได้เปิดตัวบัตรเครดิต "เคทีซี-รอยัล ออร์คิด พลัส เวิลด์ มาสเตอร์การ์ด" ซึ่งเป็นบัตรเครดิตประดับเพชรและทองใบแรกของเมืองไทย แต่เป็นรายที่ 3 ของโลก โดยมุ่งหวังจะขยายฐานลูกค้าระดับบนอย่างจริงจัง โดยผู้ถือบัตรดังกล่าวจะต้องได้รับการเชิญเข้ามาเป็นสมาชิกเท่านั้น ซึ่งบัตรนี้จะมุ่งเน้นสิทธิประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้ถือบัตรเครดิตดังกล่าวกว่า 500 ใบ และจะมียอดการใช้จ่ายต่อคนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่เคทีซีจะเชิญให้มาถือบัตรนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกบัตรให้แล้ว 6-7 ราย และได้มีการส่งหนังสือเชิญแล้วประมาณ 200 ราย โดยวงเงินที่ให้ในบัตรนั้นจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท
"เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวบัตรเครดิตล้ำค่าอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ได้จัดแคมเปญท่องเที่ยวพิเศษสุด "Dream Excursion" สำหรับสมาชิกบัตรที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 20 ท่านแรก ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551- 9 กุมภาพันธ์ 2552 (ขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป) จะได้รับรางวัล อาทิ แพ็คเกจท่องเที่ยวระดับเฟิร์สท์ คลาส ที่ให้ผู้โชคดีสามารถออกแบบการเดินทางเองได้ตามใจชอบกับทุกจุดหมายของการบินไทย พร้อมการพักผ่อนสุดหรูอย่างมีสไตล์ในโรงแรมชั้นนำทั่วโลกในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินการบินไทย รวมมูลค่ารางวัลกว่า 2.8 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคอนเซ็ปท์การมอบรางวัลในลักษณะนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกลุ่มนี้"
