xs
xsm
sm
md
lg

ททท.ถกเอกชนจันทร์นี้ รับมือพิษแฮมเบอร์เกอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ททท.นัดเอกชนจันทร์นี้ หารือเตรียมรับมือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ด้านเอกชน เผยยอดจองห้องพักล่วงหน้าวูบเหลือ 70% ชี้ ปีนี้กระทบตลาดระยะใกล้ ส่วนปีหน้าฟาดถึงตลาดระยะไกล ระบุ แม้สภาคองเกรส สหรัฐฯผ่านงบฟื้นฟูแล้ว ก็อย่าวางใจ ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด

นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 6  ต.ค.นี้ ได้เชิญภาคเอกชนมาร่วมประชุมกับคณะทำงานศูนย์ปฎิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฎิบัติการในภาวะวิกฤต (ศ.ว.ก.) เพื่อประเมินสถานการณ์วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ว่า จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยแค่ไหน อย่างไร  เพื่อที่จะได้หาวิธีรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ ททท.ยังมองว่า แผนงานที่ทำมาตั้งแต่ปีก่อนในเรื่องของหาตลาดใหม่เพิ่มเติมจะช่วยวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ได้ เพราะ เรามีตลาดใหม่ อย่างตะวันออกกลาง อินเดียและจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจดี รวมถึงแผนงานเจาะตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มไฮเอนด์ และประเทศที่เดินทางระยะใกล้

***เอกชนห่วงท่องเที่ยวปีหน้า**

ทางด้าน นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดระยะไกลแถบยุโรปและอเมริกา ที่จองห้องพักไว้ช่วงไฮซีซันนี้ ยังไม่มีใครยกเลิกการเดินทาง แต่ยอมรับว่าไม่มียอดจองใหม่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีอัตราเข้าพักที่เป็นยอดจองล่วงหน้าช่วงไฮซีซั่นราว  70% จากทุกปีช่วงนี้ยอดจองจะอยู่ 90-100% แล้ว ดังนั้นเชื่อว่า ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทย ยังคงไม่น่าห่วง แต่ปีหน้า ค่อนข้างหนักใจ แม้ว่า สภาคองเกรสของสหรัฐจะอนุมัติงบประมาณฟื้นฟูกิจการของสถาบันการเงินและบริษัทรวมแล้วกว่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯแล้วก็ตาม ก็ยังต้องเฝ้าดู แผนงานด้านอื่นๆอย่างใกล้ชิดด้วย

อย่างไรก็ตาม ตลาดระยะใกล้ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ เช่น ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และ เกาหลี จะเห็นผลกระทบตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายนี้เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวอาจชะลอการเดินทาท่องเที่ยว ใช้เงินอย่างระมัดระวัง

***ททท.จับมือมาสเตอร์การ์ด

นางจุฑาพร เริงรณอาสา รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า ล่าสุด ททท.จับมือกับมาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิต มาสเตอร์การ์ด  เปิดตัวโครงการเที่ยวทั่วพัทยาใน 72 ชั่วโมง และเที่ยวทั่วภูเก็ตใน 72 ชั่วโมง จัดทำคู่มือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก สปา ใหม่ๆ ในพัทยา และภูเก็ต พร้อมเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ด

ทั้งนี้ เพราะเห็นเทรนด์ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป มีเวลาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ก็จะลดวันเดินทางท่องเที่ยว จึงเชื่อว่า โครงการนี้จะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง และ พำนักอยู่ในประเทศระยะใกล้ย่านเอเชียแปซิฟิกระยะเดินทางมาไทยไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ซึ่งมาสเตอร์การ์ดมีสมาชิกผู้ถือบัตรอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวถึง 226 ราย

“ททท.จะร่วมกับมาสเตอร์การ์ด โปรโมตประเทศไทยเป็น วีกเอนด์ เบรก เดสติเนชัน มาเที่ยวได้บ่อยครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้จัดทำคู่มือรูปแบบเดียวกันนี้ ใน 2 เดสติเนชัน คือ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ผลตอบรับดี จึง ต่อยอดอีก 2 เดสติเนชั่นคือ พัทยาและ ภูเก็ต ปีหน้า คาดว่า จะเพิ่มที่สมุย หัวหิน และภาคอีสาน จากนั้นจะขยายแปลเป็นภาษาไทย เจาะนักท่องเที่ยวคนไทยด้วย”

นางสาวไอลีน วี รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ กล่าวว่า สมาชิกบัตรมาสเตอร์การ์ดในเอเชียแปซิฟิก มีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ดในประเทศไทยเป็นลำดับที่ 2 รองจากญี่ปุ่น เชื่อว่าโครงการนี้จะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น โดย 8 เดือนที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของมาสเตอร์การ์ดเติบโต 23.4% ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ยังไม่มีผลกระทบต่อบริษัท เพราะผู้ถือบัตรเครดิต ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับบน
กำลังโหลดความคิดเห็น