ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 400 จุด แรงขายทำกำไรฉุดดัชนีภาคเช้าปิดบล 0.93% โบรกฯ เตือนการปรับขึ้นอาจไม่ยั่งยืน ยังต้องเผชิญแรง profit taking และการไถ่ถอนหน่วยลงทุนยังคงดำเนินต่อไปในหลายประเทศ
แนวโน้มบ่าย ช่วงท้ายตลาดอาจมีขายทำกำไรต่อต่างชาติแตะเบรกชะลอลงทุน ลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้ เชื่อเฟดหั่นดอกเบี้ย 0.5% พยุงเศรษฐกิจ-ฟื้นความเชื่อมั่น แนะรอจับตาถ้อยแถลง “เบอร์นันกี” ฉายภาพเศรษฐกิจ บ่งชี้ความคืบหน้าผลการใช้มาตรการแก้วิกฤต หวั่นเยนแข็งค่า หวั่นฝรั่งเทกระจาด-กังวลปิดสถานะ “เยน แครี่เทรด” ดูดเงินไหลเข้าญี่ปุ่น
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (29 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 394.34 จุด ลดลง 3.70 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.93% มูลค่าการซื้อขาย 10,103 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายเช้านี้ค่อนข้างผันผวน โดยช่วงเปิดตลาดดัชนีดีดขึ้นไปกว่า 10 จุด และมีแรงขายอย่างหนักช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ดัชนีรูดลงในแดนลบ และหลุดระดับ 400 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้รีบาวนด์ตามวอลล์สตรีท หลังมองธนาคารกลางของชาติต่างๆ ในโลกจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งเฟดประชุมวันนี้น่าจะลดดอกเบี้ยลง
เรื่องดังกล่าวเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่มีผลทางด้านจิตวิทยาโดยตรง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคดีดกลับขึ้นมานอกเหนือไปจากราคาหุ้นที่ลงไปมากทั้งหมดจึงมีแรงซื้อเข้ามาและมีเทคนิคัลรีบาวนด์ด้วย
แต่เตือนว่าการปรับขึ้นครั้งนี้อายุไม่ยาวก็อาจจะต้องเผชิญกับ profit taking ลงไปอีก และการไถ่ถอนหน่วยลงทุนยังคงดำเนินต่อไปในประเทศทั้งหลาย อย่าง อินโดนีเซีย เมื่อวานลงหนัก คงต้องระมัดระวัง
แนวโน้มช่วงบ่าย ช่วงท้ายตลาดคงจะมี profit taking ออกมาแต่น่าจะปิดบวกได้ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวประเมินยากขึ้นเพราะตลาดหุ้นแต่ละวันผันผวนมาก
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวน โดนดัชนีปรับขึ้นแรงในช่วงเปิดการซื้อขายตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ทะยานขึ้น 889.35 จุดจากแรงซื้อเก็งกำไรจากความคาดหวังว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุม วันนี้ จากระดับ 1.5% ในปัจจุบัน เหลือแค่ 1%
นอกจากนี้ ยังต้องประเมินมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินของเฟด ที่เริ่มมีการนำมาปฏิบัติใช้แล้ว โดยเฟดเริ่มอัดฉีดเงินโดยการซื้อตราสารหนี้ของบริษัทต่างๆ และเตรียมที่จะส่งมอบเงินจำนวน 1.25 แสนล้านเหรียญ ให้ธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงภาวะความเชื่อมั่นเปราะบางท่ามกลางเศรษฐกิจที่ถดถอยรุนแรง ทำให้นักลงทุนมีแรงขายออกมาเพื่อทำกำไรบางส่วน รวมไปถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เริ่มอ่อนตัวลงจากที่เปิดการซื้อขายบวกไป 6-7% ทำให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวตามกัน
ดัชนี นิกเกอิ : ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 12:16 น.(ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 7,880.23 จุด เพิ่มขึ้น 258.31 จุด ทั้งนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 7,741.52 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 7,621.92จุด ดัชนี ฮั่งเส็ง : ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดเช้าที่ระดับ 12,767.76 จุด เพิ่มขึ้น 171.47 จุด หรือ 1.36% จากช่วงระหว่างการซื้อขายที่ปรับขึ้นไปแรงเกือบ 700 จุด
สำหรับแนวโน้มในช่วงบ่าย คาดว่า ดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพราะนักลงทุนน่าจะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามผลการประชุมของเฟด ที่จะรู้ผลในคืนวันนี้ และยังต้องติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด ว่า จะประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างไร และอาจมีรายงานว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มใช้มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีต่อเนื่อง ยังมีผลกดดันตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก และค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอีกครั้งก่อให้เกิดความกังวลถึงการปิดสถานะเยน แครี่เทรด ที่อาจทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วเอเชียกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ดัชนีเปิดตลาดช่วงบ่ายรูดลงทันทีกว่า 2% โดยเมื่อเวลา 14.37 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 387.90 จุด ลดลง 10.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,879.80 ล้านบาท
