xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยสวนตลาดภูมิภาคแรงขายทำกำไรกดดัชนีรูด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นไทยสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค เจอแรงเทขายทำกำไรกดดัชนีติดลบกว่า 10 จุด โดยหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ด้านนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มยังผันผวนในกรอบแคบทั้งแดนบวก-ลบ เหตุนักลงทุนเฝ้ารอความชัดเจนมาตรการแก้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ พร้อมจับตาคดียุบพรรคการเมือง
การประกาศล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ในสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อสถาบันการเงินอื่นๆ ทั่วโลก รวมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีสถาบันการเงินต่างๆ ที่จะประสบชะตากรรมเดียวกับเลห์แมนฯ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากทางการสหรัฐฯ และธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก ออกมาประกาศมาตรการที่ชัดเจนจะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (22 ก.ย.) ได้เคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นไทย กลับปรับตัวลดลง แม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงเช้า โดยมีราคาสูงสุดที่ 629.07 จุด หลังจากนั้นราคาหุ้นได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และลงแรงในช่วงบ่ายที่ลดต่ำสุดที่ 614.25 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 614.49 จุด ลดลงจากวันก่อน 10.34 จุด คิดเป็น 1.65% มูลค่าการซื้อขายรวม 13,257.59 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นหลักๆ ในแอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 19,632.20 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 304.47 จุด หรือ 1.58% หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 19,137.67 จุด และระดับสูงสุดที่ 19,869.02 จุด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดที่ระดับ 12,090.59 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 169.73 จุด เปลี่ยนแปลง
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงนั้น ได้รับผลกระทบจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ราคาปิดที่ 103.00 บาท ลดลงจากวันก่อน 3.00 บาท หรือคิดเป็น 2.83% ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 4.20% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.79% และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ปิดที่ 17.00 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 4.49%
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวว่า วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อดูมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดในแดนลบ เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังไม่คลี่คลาย และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง 15 % และมีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น เพราะมีมุมมองที่ดีต่อมาตรการแก้ปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ รวมทั้งตลาดหุ้นบางประเทศมีการประกาศใช้ห้ามใช้การซื้อขายแบบซ็อตเซล จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพดีขึ้น
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ก.ย.) คาดดัชนีตลาดหุ้นยังผันผวนในกรอบแคบๆ ให้แนวรับที่ 610 จุด และแนวต้านที่ 625-630 จุด โดยให้จับตาโผคณะรัฐมนตรีว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งใด รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีอย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน สวนทางกับทิศทางทางตลาดทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะทางการเงินของสหรัฐอเมริกา และนักลงทุนต่างชาติปรับลดความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินของไทย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง
“แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะยังคงผันผวน โดยให้แนวรับที่ 605 จุด และแนวต้านที่ 625 จุด ขณะทีนักลงทุนต้องติดตามการพิจารณายุบพรรคชาติไทยและพรรคมัฌชิมาธิปไตย รวมถึงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหาสภาวะทางการเงิน ดังนั้นช่วงนี้นักลงทุนควรชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนต่างๆ ก่อน”
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนบางสวนยังรอดูรายละเอียดมาตรการกู้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ นอกจากนี้ นักลงทุนเริ่มวิตกภาคอุตสาหกรรมที่แท้จริงอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินครั้งนี้ในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวจนถึงกลางปีหน้า
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุนในวันนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและแดนลบ หากยังไม่ได้รับสัญญาณที่ดี โดยอิงกับปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก มีแนวต้านที่บริเวณ 629 จุด และแนวรับที่ 610 และ 600 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น