xs
xsm
sm
md
lg

"ไทยเบฟ"เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น ประเดิมเทรดดูอัลฯควบสิงคโปร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยเบฟฉวยจังหวะการเมืองวุ่น ยื่นเรื่องเข้าตลาดหุ้น ผู้บริหารยันเป็นช่วงเหมาะสม พรบ.เหล้าผ่านแล้ว เจียดหุ้นแค่ 0.3% ของสิริวนาที่ถือในไทยเบฟ มาเสนอขายจำนวน 80 ล้านหุ้น

นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้บริษัทฯได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากมีความเหมาะสมด้วยหลายปัจจัย เช่น การผ่านร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งทำให้ระเบียบข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของไทยเบฟมีความชัดเจนมากขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์แต่อย่างใด และบริษัทฯก็ศึกษามานานซึ่งลงตัวช่วงนี้พอดี

สำหรับกรณีที่จะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านการเข้าตลาดฯของไทยเบฟนั้นเหมือนในอดีต เนื่องจากเป็นธุรกิจน้ำเมานั้น นายอวยชัยกล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้เป็นอย่างไร อีก 2 เดือนเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ การเข้าตลาดหุ้นและการต่อต้านเป็นคนละเรื่องกัน เราไม่รู้ว่าจะไม่มีใครมาต่อต้านอีก แต่ว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่ว่าคราวนี้เรามีคำตอบชัดเจน เพราะว่าพรบ.แอลกอฮอล์ก็ออกมาแล้ว ข้อสงสัยทุกประการเราสามารถให้คำตอบได้ อีกทั้งเราอยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ด้วย ข้อมูลโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ไทยเบฟยื่นเรื่องเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงนี้เป็นจังหวะที่การเมืองยังมีปัญหาความวุ่นวายอยู่อาจจะทำให้กระแสต่อต้านน้อยลง

ทั้งนี้บริษัทฯจะนำหุ้นของบริษัท สิริวนา จำกัด จำนวน 0.3% ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ในไทยเบฟ 8.75% หรือคิดเป็นประมาณ 80 ล้านหุ้น เพื่อดำเนินการเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย ขณะที่ทุนจดทะเบียนของไทยเบฟมี 25,111 ล้านหุ้น ราคา พาร์ 1 บาท โดยมีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรจำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ยังไม่ได้กำหนดราคาไอพีโอ ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาเอกสารของทางตลาดหลักทรัพย์ฯจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะทำให้ไทยเบฟน่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงติดอันดับหนึ่งในสิบของตลาดทุนไทยและเป็นบริษัทไทยรายที่สองที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สองแห่ง คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST)

ผลประกอบการไทยเบฟปี 2550 มีรายได้จากการขาย 100,541 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,383 ล้าน
บาท และมีเงินปันผล 7,282 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก 2551 มีรายได้ 51,000 ล้านบาท เติบโต 4% กำไรสุทธิ 5,000 ล้านบาท ตกลง 4.6% และเป็นบริษัทฯที่จ่ายภาษีนิติบุคคลและภาษีสรรพสามิตให้กับรัฐบาลไทยมากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 4% ของยอดเก็บภาษีรวมทั้งปีของรัฐบาล

ทั้งนี้การเข้าจดทะเบียนดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯมีหุ้นหมุนเวียนอยู่กับนักลงทุนรายย่อยที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์เหลือ 19.43% จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20% ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปของบริษัทฯ อยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้นของบริษัทฯที่ตลาดสิงคโปร์ ปิดตลาดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคา 0.225 ดอลล่าร์ต่อหุ้น

ส่วนกรณีบริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) นั้นซึ่งเป็นบริษัทในเครือก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยังคงจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯเหมือนเดิม และบริษัทฯจะไม่มีการปรับโครงสร้างบริหารของไทยเบฟด้วย เพราะปรับมาก่อนหน้านี้แล้ว

นายอวยชัยกล่าวต่อว่า เป้าหมายของไทยเบฟต้องการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเมื่อต้นปีก็ได้ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และเร็วๆนี้ก็ซื้อหุ้นในโออิชิเพิ่มขึ้นเป็น 43% ปัจจุบันสินค้าที่ทำตลาดในต่างประเทศมี 2 แบรนด์หลักของไทยคือ ช้างและแม่โขง กับแบรนด์ที่เป็นบริษัทในต่างประเทศที่ไทยเบฟไปเทคโอเวอร์มา 2 ปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น