ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 1.37% เหมือนกับตลาดในภูมิภาค เก็นกำไรหุ้นน้ำมัน โดบคาดว่าโอเปกจะลดกำลังการผลิต แนะจับตาจุด bottom วิกฤตการเงินในสหรัฐ ส่วนการเมืองไทยยังเป็นปัจจัยเสี่ยง บ่ายนี้คาดตลาดแกว่งคล้ายช่วงเช้า พร้อมแนะจับตาดัชนีช่วงบ่าย หากเหนือ 500 จุดจะไปไกลถึง 550-560 จุด แต่ถ้าพลิกกลับต่ำกว่า 470 จุด มีสิทธิ์ไหลลงมาทำ new low ที่ต่ำกว่า 450 จุดได้
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ ( 21 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 483.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด เปลี่ยนแปลง +1.37% มูลค่าการซื้อขาย 6,325.35 ล้านบาท
น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีการดีดตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยรับแรงซื้อหลักจากหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ หลังจากที่ประกาศงบฯ Q3/51 ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งถือว่ากลุ่มแบงก์ในบ้านเราไม่ได้ย่ำแย่อะไร ถึงแม้ว่าจะต้องตั้งสำรองที่เกิดจากการลงทุนในต่างประเทศ
ส่วนกลุ่มพลังงานก็มีการปรับตัวขึ้น โดยคาดหวังจากที่โอเปกจะลดกำลังการผลิตลงในการประชุมศุกร์นี้ (24 ต.ค.) แต่กลุ่มที่พึ่งจะมามี Activity มากเล็กน้อยในวันนี้เป็นกลุ่ม Property ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันว่ากำไรในงวดไตรมาส 3/51 น่าจะยังออกมาใช้ได้
"ถ้าปัญหาวิกฤตการเงินในสหรัฐฯได้ผ่านจุด bottom ไปแล้ว จริงๆ มันก็จะทำให้ความวิตกค่อย ๆ ผ่อนคลายลง แต่ว่าถ้าเป็นแค่การผ่อนคลายชั่วคราวแล้วมีรอบใหม่มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่จะไม่ดี แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีใครรู้ ทุกคนก็ยังจับตาดูอยู่เหมือนกัน ดังนั้นการซื้อขายจึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะไม่มีใครมั่นใจได้ 100% ว่ามันได้ผ่านจุด bottom ไปแล้ว"
สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศ ก็ยังมีความคาดหวังที่จะไม่เกิดความรุนแรงขึ้น คิดว่าทุกฝ่ายก็พยายามพยุงสถานการณ์ไม่ให้ไปสู่จุดวิกฤต แต่ก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงอยู่ดี
ส่วนช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาพร มองว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะมีการเคลื่อนไหวที่ใกล้เคียงกับช่วงเช้า การซื้อขายของนักลงทุนยังคงระมัดระวังอยู่ พร้อมให้จับตาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในแถบยุโรป
มองในแง่ของเทคนิคเคิล การที่ดัชนีขึ้นมาเหนือ 480 จุดก็เป็นภาพที่ดูดีในระยะสั้น แต่หลังจากนี้ไปแล้ว ดัชนีฯจะปรับขึ้นต่อเพื่อไปทดสอบที่ 500 จุด หรือจะปรับตัวลงมาต่ำกว่า 470 จุด ซึ่งมันมีนัยตรงที่ว่าถ้าดัชนีฯขึ้นไปยืนเหนือ 500 จุดได้ก็อาจจะไปไกลได้ถึง 550-560 จุด แต่ถ้าดัชนีเกิดพลิกกลับเป็นลง แล้วลงมาต่ำกว่า 470 จุด ภาพจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดัชนีฯอาจจะลงมาทำ new low ที่ต่ำกว่า 450 จุดได้