ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแรงซื้อกลับในหุ้นใหญ่พลังงาน ปิโตรเคมี แบงก์ โดยกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมานิวไฮ แบงก์เก็งผลประกอบการไตรมาส 1/51 จะออกมาดี และการที่ดัชนีขึ้นมายืนเหนือ 830 จุดได้ทำให้โมเมนตั้มดูดีขึ้น ระยะสั้นรอลุ้น 842 จุด แนวรับ 827 จุด แนวโน้มพรุ่งนี้ทางเทคนิคค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ พลังงานยังได้แรงหนุนต่อ
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(16 เม.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 833.38 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.76% มูลค่าการซื้อขาย 21,328 ล้านบาท โดยบรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบ จากนั้นช่วงบ่ายดัชนียืนในแดนบวกได้ตลอดช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 835.13 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 826.08 จุด
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ซื้อกลับเข้ามาดีกว่าที่ตลาดคาดเยอะ เพราะก่อนหน้าตลาดเปิดยังไม่แน่ใจว่าหุ้นไทยจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นเพื่อนบ้านหรือเปล่าจากที่สหรัฐปรับตัวลงจากความไม่มั่นใจในผลประกอบการของบริษัททั่วไปว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับบ้านเรามีมติยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัฌชิมาธิปไตยซึ่งไม่แน่ใจว่าตลาดจะกังวลกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ปรากฎว่าทั้ง 2 เรื่องซึ่งเป็นปัจจัยลบไม่ได้เหวี่ยงตลาดลงเลย
ในมุมกลับจะพบว่ามีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ แบงก์ ปิโตรเคมี และพลังงาน โดยกลุ่มพลังงานชัดเจนว่าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับขึ้นทำนิวไฮ กลุ่มแบงก์เก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1 ที่คาดว่าจะออกมาดี
"ชัดเจนวันนี้มีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่กลับเข้ามา โดยรวมดูดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ดัชนีกลับขึ้นมายืนเหนือบริเวณแนวต้าน 830 จุดได้ทำให้โมเมนตั้มดูดีขึ้น" นายพิชัย กล่าว
ในระยะสั้นรอลุ้นแถว 842 จุด เป็นแนวต้านถัดไป แนวรับที่ 827 จุด
แนวโน้มพรุ่งนี้โมเมนตั้มค่อนข้างดีโดยเฉพาะในหุ้นใหญ่กลุ่มแบงก์ พลังงาน ทั้งหุ้นน้ำมันและโรงกลั่น สังเกตุค่าการกลั่นดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา โดยตั้งแต่เปิดเดือนเม.ย.เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญฯต่อบาร์เรล หนุนหุ้นโรงกลั่นที่เงียบมานานคึกคักขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,125.87 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,256.06 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,152.62 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,072.36 ล้านบาท ปิดที่ 92.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,061.35 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(16 เม.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 833.38 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.76% มูลค่าการซื้อขาย 21,328 ล้านบาท โดยบรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบ จากนั้นช่วงบ่ายดัชนียืนในแดนบวกได้ตลอดช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 835.13 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 826.08 จุด
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ซื้อกลับเข้ามาดีกว่าที่ตลาดคาดเยอะ เพราะก่อนหน้าตลาดเปิดยังไม่แน่ใจว่าหุ้นไทยจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นเพื่อนบ้านหรือเปล่าจากที่สหรัฐปรับตัวลงจากความไม่มั่นใจในผลประกอบการของบริษัททั่วไปว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับบ้านเรามีมติยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัฌชิมาธิปไตยซึ่งไม่แน่ใจว่าตลาดจะกังวลกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ปรากฎว่าทั้ง 2 เรื่องซึ่งเป็นปัจจัยลบไม่ได้เหวี่ยงตลาดลงเลย
ในมุมกลับจะพบว่ามีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ แบงก์ ปิโตรเคมี และพลังงาน โดยกลุ่มพลังงานชัดเจนว่าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับขึ้นทำนิวไฮ กลุ่มแบงก์เก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1 ที่คาดว่าจะออกมาดี
"ชัดเจนวันนี้มีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่กลับเข้ามา โดยรวมดูดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ดัชนีกลับขึ้นมายืนเหนือบริเวณแนวต้าน 830 จุดได้ทำให้โมเมนตั้มดูดีขึ้น" นายพิชัย กล่าว
ในระยะสั้นรอลุ้นแถว 842 จุด เป็นแนวต้านถัดไป แนวรับที่ 827 จุด
แนวโน้มพรุ่งนี้โมเมนตั้มค่อนข้างดีโดยเฉพาะในหุ้นใหญ่กลุ่มแบงก์ พลังงาน ทั้งหุ้นน้ำมันและโรงกลั่น สังเกตุค่าการกลั่นดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา โดยตั้งแต่เปิดเดือนเม.ย.เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญฯต่อบาร์เรล หนุนหุ้นโรงกลั่นที่เงียบมานานคึกคักขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,125.87 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,256.06 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,152.62 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,072.36 ล้านบาท ปิดที่ 92.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,061.35 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง