ตลาดหุ้นภาคบ่ายรูดอีก 9.61% หลังเจอ Circuit Breaker นานครึ่งชั่วโมง ช่วงเปิดการซื้อขายภาคบ่ายได้เพียง 5 นาที โดยเปิดการซื้อขายอีกครั้งเมื่อเวลา 15.05 น.ดัชนีดีดกลับมาประมาณ 0.5%
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (10 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 451.96 จุด ลดลง 48.03 จุด เปลี่ยนแปลง -9.61% เมื่อเวลา 16.40 น.โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 16,260.79 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT ปิดที่ 170 บาท ลดลง 22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,231.67 ล้าน, PTTEP ปิดที่ 96.50 บาท ลดลง 10.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,601.96 ล้าน, BANPU ปิดที่ 176 บาท ลดลง 36 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,447.76 ล้าน และ KBANK ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 6.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,016.79 ลบ.5.BBL ปิดที่ 75.50 บาท ลดลง 12.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 992.10 ล้าน
นางภัทรียา เบญพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากที่ตลาดหลักทรัพย์ได้หยุดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.35-15.05 น.เนื่องจากดัชนีราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 50.08 จุด คิดเป็น 10.02% นั้น เชื่อว่า ทำให้นักลงทุนมีเวลาติดตามข้อมูลและสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทำให้หลังเปิดการซื้อขายอีกครั้งเมื่อเวลา 15.05 น.ดัชนีดีดกลับมาราว 1%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ยังต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภาวะตลาดหุ้นของสหรัฐฯ และยุโรป ว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หากมองปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยและบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแรง หากเข้าลงทุนช่วงนี้และสามารถถือได้ระยะยาวก็เป็นโอกาสที่ดี ส่วนใครที่ถือหุ้นอยู่ ก็ขอให้ตัดสินใจให้ดีก่อนขายออกมา
ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงวันนี้เป็นไปตามตลาดทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและการใช้ Circuit Breaker ก็เป็นตามกลไกและกฎระเบียบของตลาด แต่การปรับลดของดัชนีวันนี้ถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ 50% ตั้งแต่ต้นปี แต่ยังถือว่าน้อยกว่าตลาดอื่นทั่วโลก โดยเมื่อเวลา 16.07 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 452.85 จุด ลดลง 47.14 จุด เปลี่ยนแปลง -9.43%
โดยเช้าวันนี้ นายปกรณ์ มาลากุล ประธาน ตลท.ได้หารือกับ 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.), สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.), สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และสมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศ เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์วิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา และผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
