ก.ล.ต. ตรวจค้น " โอ.แอล.ทีเอ็นเตอร์ไพร์ส " ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นแห่งที่ 4 ของปีนี้ เตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆควรเลือกบริษัทที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) ตรวจค้นและกล่าวโทษบริษัท โอ.แอล.ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของสำนักงานก.ล.ต.ในการปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายพร้อมทั้งเตือนให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับสำนักงานก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน
สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแสว่าพนักงานของ บริษัท โอ.แอล.ทีเอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ทำการติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบโดยที่บริษัท โอ.แอล.ทีฯไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี(ปศท.)เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบภาษีกลางกรมสรรพากรและเจ้าหน้าที่กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบกระทรวงการคลังเข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 31/74 ซอยรัชดาภิเษก 32แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบเอกสารและหลักฐานการชักชวนผู้ลงทุนและข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าของ บริษัทโอ.แอล.ทีฯ และพนักงานบางส่วนเคยทำงานใน บริษัท เบสท์ พอยท์ แอซโซซิเอท จำกัด และ บริษัท วิคเตอร์ คอร์ปอเรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้และถูกสำนักงานก.ล.ต. กล่าวโทษต่อ ปศท. แล้ว
สำหรับกรณีบริษัท โอ.แอล.ที ฯ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อปศท. เนื่องจากพบการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพ.ศ. 2546 โดยมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและปรับอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัโอ.แอล.ทีฯแจ้งข้อมูลมาที่สำนักงาน ก.ล.ต. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2263-6000 ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทำธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนมากและพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าบริษัทที่จัดตั้งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์เป็นบริษัทที่สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้อย่างถูกต้องทั้งที่การประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยโดยบริษัทที่จะได้รับอนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนด
สำนักงาน ก.ล.ต.จึงขอเตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆควรเลือกใช้บริการเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต.เท่านั้นโดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่www.sec.or.thและกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้าผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) ที่ www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการและหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายังสำนักงานก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่enforcement@aftc.or.th เพื่อการดำเนินการตรวจสอบต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) ตรวจค้นและกล่าวโทษบริษัท โอ.แอล.ที เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของสำนักงานก.ล.ต.ในการปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายพร้อมทั้งเตือนให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกับสำนักงานก.ล.ต. ก่อนตัดสินใจลงทุน
สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแสว่าพนักงานของ บริษัท โอ.แอล.ทีเอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ทำการติดต่อชักชวนบุคคลทั่วไปให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบโดยที่บริษัท โอ.แอล.ทีฯไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 สำนักงาน ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี(ปศท.)เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบภาษีกลางกรมสรรพากรและเจ้าหน้าที่กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบกระทรวงการคลังเข้าตรวจค้นที่ทำการของบริษัทดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 31/74 ซอยรัชดาภิเษก 32แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบเอกสารและหลักฐานการชักชวนผู้ลงทุนและข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าของ บริษัทโอ.แอล.ทีฯ และพนักงานบางส่วนเคยทำงานใน บริษัท เบสท์ พอยท์ แอซโซซิเอท จำกัด และ บริษัท วิคเตอร์ คอร์ปอเรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้และถูกสำนักงานก.ล.ต. กล่าวโทษต่อ ปศท. แล้ว
สำหรับกรณีบริษัท โอ.แอล.ที ฯ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อปศท. เนื่องจากพบการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 16แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพ.ศ. 2546 โดยมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 125ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและปรับอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบริษัโอ.แอล.ทีฯแจ้งข้อมูลมาที่สำนักงาน ก.ล.ต. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2263-6000 ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานก.ล.ต.ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทำธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนมากและพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าบริษัทที่จัดตั้งเป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์เป็นบริษัทที่สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้อย่างถูกต้องทั้งที่การประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยโดยบริษัทที่จะได้รับอนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนด
สำนักงาน ก.ล.ต.จึงขอเตือนผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆควรเลือกใช้บริการเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต.เท่านั้นโดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่www.sec.or.thและกรณีที่เป็นสินค้าเกษตรล่วงหน้าผู้ลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) ที่ www.aftc.or.th เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของทางการและหากพบการให้บริการที่สงสัยว่าจะกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ผู้ลงทุนแจ้งเบาะแสมายังสำนักงานก.ล.ต. ที่ complain@sec.or.th หรือ ก.ส.ล. ที่enforcement@aftc.or.th เพื่อการดำเนินการตรวจสอบต่อไป