GSTEEL ดึงมิตซุย เทรดเดอร์เหล็กรายใหญ่ของโลกเข้าร่วมถือหุ้น สร้างความแข็งแกร่งด้านการตลาดและซัปพลายเชน รองรับแผนการขยายกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนที่จะแล้วเสร็จรวมเป็น 5 ล้านตันต้นปี 2553
นายริวโซ โอกิโน กรรมการ บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (GSTEEL) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 6/2551 เมื่อ 3 ต.ค.ซึ่งที่ประชุมรับทราบว่ากลุ่มมิตซุย( MITSUI ) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเหล็กอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นบริษัทค้าเหล็กรายใหญ่อันดับต้นของโลก และในไทย แจ้งความประสงค์มายังบริษัทฯ ขอเสนอเข้าลงทุนและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทฯ โดยการเข้าถือหุ้น ซึ่งบอร์ดได้พิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ดำเนินการในรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
แหล่งข่าวจาก GSTEEL กล่าวว่า การดึงมิตซุยเข้าเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งด้านการตลาดและซัปพลายเชน เพราะมิตซุยเป็นผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ที่มีเชนอยู่ทั่วโลกและมีสินทรัพย์เกือบ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐและมีรายได้ปีละ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมิตซุยเห็นศักยภาพของGSTEEL เพราะเป็นบริษัทที่ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนครบวงจรรายใหญ่สุดของประเทศด้วย กำลังการผลิตทั้งเครือฯ 3.3 ล้านตันต่อปี และในต้นปี 53 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านตันต่อปี
โดย มิตซุยเข้าร่วมทุนกับ GSTEEL ครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯการจัดหาวัตถุดิบ คือเหล็กดิบ-เศษเหล็ก รวมทั้งการส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนไปต่างประเทศทำได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น เพราะมิตซุยเองก็เข้าไปถือหุ้นในเหมืองแร่เหล็กเช่นกัน
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า การดึงมิตซุยเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการตลาด แต่ในด้านเทคโนโลยีการผลิตเหล็กอาจจะต้องมีการดึงพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในอนาคตด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่อันดับต้นๆของโลก ทำให้ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลกที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย หนีไม่พ้นที่ต้องมาเจรจากับผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในประเทศเพื่อร่วมมือในการทำธุรกิจ ซึ่งGSTEEL เองก็มีใบอนุญาตในการตั้งโรงงานถลุงเหล็ก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ เพราะต้อง ขยายกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนให้ได้ปีละ 5 ล้านตัน
นายริวโซ โอกิโน กรรมการ บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (GSTEEL) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 6/2551 เมื่อ 3 ต.ค.ซึ่งที่ประชุมรับทราบว่ากลุ่มมิตซุย( MITSUI ) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเหล็กอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นบริษัทค้าเหล็กรายใหญ่อันดับต้นของโลก และในไทย แจ้งความประสงค์มายังบริษัทฯ ขอเสนอเข้าลงทุนและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทฯ โดยการเข้าถือหุ้น ซึ่งบอร์ดได้พิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ดำเนินการในรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
แหล่งข่าวจาก GSTEEL กล่าวว่า การดึงมิตซุยเข้าเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งด้านการตลาดและซัปพลายเชน เพราะมิตซุยเป็นผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ที่มีเชนอยู่ทั่วโลกและมีสินทรัพย์เกือบ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐและมีรายได้ปีละ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมิตซุยเห็นศักยภาพของGSTEEL เพราะเป็นบริษัทที่ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนครบวงจรรายใหญ่สุดของประเทศด้วย กำลังการผลิตทั้งเครือฯ 3.3 ล้านตันต่อปี และในต้นปี 53 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านตันต่อปี
โดย มิตซุยเข้าร่วมทุนกับ GSTEEL ครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯการจัดหาวัตถุดิบ คือเหล็กดิบ-เศษเหล็ก รวมทั้งการส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนไปต่างประเทศทำได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น เพราะมิตซุยเองก็เข้าไปถือหุ้นในเหมืองแร่เหล็กเช่นกัน
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า การดึงมิตซุยเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการตลาด แต่ในด้านเทคโนโลยีการผลิตเหล็กอาจจะต้องมีการดึงพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในอนาคตด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่อันดับต้นๆของโลก ทำให้ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลกที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย หนีไม่พ้นที่ต้องมาเจรจากับผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในประเทศเพื่อร่วมมือในการทำธุรกิจ ซึ่งGSTEEL เองก็มีใบอนุญาตในการตั้งโรงงานถลุงเหล็ก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ เพราะต้อง ขยายกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนให้ได้ปีละ 5 ล้านตัน