ผู้ว่าฯ ธปท.ชี้ค่าเงินบาท ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ ยันเกาะกลุ่มในภูมิภาค ส่วนกรณีค่าเงินบาทอ่อนค่า เกิดจากต่างชาติขายหุ้น นำเงินออกไปลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ยันแบงก์ชาติไม่เคยดูแลค่าเงินแบบรายวัน ด้านเทรดเดอร์คาด บาทแข็งขึ้นเล็กน้อย เกิดจากแบงก์ชาติเข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้ง วันนี้ โดยเทขายดอลลาร์ เพื่อให้เงินบาททรงตัวในระดับ 34.25 บาท/ดอลลาร์
วันนี้ (21 ส.ค.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องในขณะนี้ โดยยอมรับว่า ธปท.ได้ประเมินสถานการณ์และจับตาอย่างใกล้ชิด สำหรับค่าเงินบาทในตอนนี้ ถือว่าผันผวนหรือไม่นั้น นายธาริษา กล่าวยืนยันว่า ธปท.ให้การดูแลอย่างดีอยู่แล้ว
นางธาริษา ยืนยันว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้ยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มในภูมิภาค โดยอ่อนค่าในระดับกลางเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ซึ่ง ธปท.ยังเข้าดูแลอยู่ตามความจำเป็น
“ช่วง 2-3 วัน มันอ่อนไปนิด แต่วันนี้ก็เข้าที่แล้ว ยอมรับว่าเมื่อวานนี้ ค่าเงินบาทอ่อนลงไปเยอะจริง แต่ถ้าดูตั้งแต่ต้นปี เราไม่ได้ผิดไปจากภูมิภาค โดยตั้งแต่ต้นปีเราอ่อนประมาณ 1% เศษ” นางธาริษา กล่าว
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ธปท.เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทในช่วงนี้ นางธาริษา กล่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ธนาคารกลางไม่ควรจะดูความเคลื่อนไหวของค่าเงินแบบรายวัน แต่ต้องพิจารณาภาพรวม ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ และนำเงินออกจากประเทศ เพื่อไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า เป็นสถานการณ์ที่เกิดเหมือนกันทั้งภูมิภาค
สำหรับในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 27 ส.ค.นี้ นางธาริษา กล่าวว่า กนง.คงจะพิจารณาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุด ทั้งเรื่องของเงินเฟ้อ แม้ว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อขณะนี้ลดลงแล้ว แต่ยังต้องดูแนวโน้มในระยะต่อไป รวมทั้งความเสี่ยงในอนาคตที่มีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
ด้านนักค้าเงิน (เทรดเดอร์) ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เชื่อว่า เช้าวันนี้ ธปท.ได้มีการเทขายดอลลาร์สหรัฐในตลาดปริวรรตเงินตรา เป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามหนุนค่าเงินบาทไม่ให้ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยล่าสุดพบว่า ค่าเงินบาทได้แข็งแกร่งขึ้น และปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยดีดตัวขึ้นเกือบ 0.5% จากระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 34.16 บาท/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้