xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นโดนพิษ "แฮมเบอร์เกอร์ ไครซิส" ฟาดเต็มเปา-ถึงคราว "บีโอเจ" ดิ้นพล่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"บีโอเจ" อัดฉีดเงินเข้าระบบอีก 5 แสนล. สกัดวิกฤตสถาบันการเงินล้ม หลังสัปดาห์ก่อนอัดฉีดไปแล้ว 3.5 ล้านล. หวั่นแบงก์สหรัฐ-ยุโรป ขาดทุนเพิ่ม กดดันตลาดเงินผันผวนต่อ เตรียมเลือกสถาบันการเงิน 40 แห่ง เข้าร่วมประมูลกองทุนเงินดอลลาร์ พร้อมชี้สถานะล่าสุด ธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เริ่มไม่ไว้วางใจในสถานภาพทางการเงินของธนาคารด้วยกัน

วันนี้ ( 22 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) หรือ BOJ ประกาศว่า ธนาคารได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินอีกก้อน จำนวน 1.5 ล้านล้านเยน หรือราว 495,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับระบบการเงินโลก หลังประสบภาวะวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ เนื่องจากการล่มสลายของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่รายล่าสุดของสหรัฐฯ คือ บริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง

รายงานหลังการประชุมของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายฯ บีโอเจ ได้ออกมาระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากราคาบ้านยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดเงินทั่วโลกเต็มไปด้วยความผันผวน

"ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนและยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ความผันผวนในตลาดเงินจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่และจะส่งผลกระทบอะไรอีกบ้าง ขณะที่ราคาสินทรัพย์และการดำเนินธุรกิจซบเซาลงเรื่อยๆ"

ทั้งนี้ บีโอเจ กล่าวยอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ภาคการส่งออกขาดปัจจัยหนุนขณะที่ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัวแต่มีเงินเฟ้อในระดับสูง วิกฤติการเงินทั่วโลกปะทุขึ้นหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ประสบภาวะล้มละลายซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอลง ดังนั้นความหวังที่จะได้เห็นเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วงขาลงในไตรมาสที่สองจึงดูเลือนรางลงทุกที

นายมาริ อิวาชิตะ นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities (SMBC) ในกรุงโตเกียว กล่าวยอมรับว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความเลวร้ายและมีความเสี่ยงปรากฎให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายดูเหมือนจะต้องทำใจว่า กว่าเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น คงต้องใช้เวลานานออกไปอีก

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารมีมุมมองในแง่ลบเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจกันมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นภาคการผลิตมีแนวโน้มดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีในไตรมาสนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเเพ่มเติมว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางหลายแห่งได้เห็นชอบที่จะอัดฉีดเงินจำนวน 1.80 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นกลับคืนมา หลังจากที่มีความวิตกกังวลกันว่า อาจมีธนาคารหลายแห่งต้องประสบภาวะล้มละลายตามรอยเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ โดยบีโอเจกล่าวว่าจะอัดฉีดเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถกู้ยืมเงินดอลลาร์ได้

โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบไปแล้วก้อนหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประมาณ 11 ล้านล้านเยน หรือราว 3.6 ล้านล้านบาท ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดการซื้อขายเช้านี้ช่วง 30 นาทีแรก ทะยานขึ้นถึง 309.24 จุด ปรับขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ 2.59 เปอร์เซ็นต์ มาเคลื่อนไหวที่ 12,230.10 จุด ขานรับแผงกอบกู้เศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประกาศจะทุ่มเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการสถาบันการเงินที่เผชิญปัญหาหนี้เน่า

รายงานข่าวบนเว็บไซท์ บลูมเบิร์ก ดอทคอม ระบุชัดว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินฯ บีโอเจ กังวลว่าธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปอาจขาดทุนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกดดันให้ตลาดเงินผันผวนต่อ

โดยแถลงการณ์การประชุมฯ ระบุว่า คณะกรรมการฯ บีโอเจ มองว่าตลาดเงินโลกยังคงไม่มีเสถียรภาพ ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากความกังวลว่าการขาดทุนของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป อาจเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวยังเป็นสาเหตุทำให้ตลาดเงินโลกไม่มีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ กรรมการฯส่วนน้อยระบุว่า บีโอเจจำเป็นต้องพิจารณาว่าการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไปในระยะยาวจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างยั่งยืน

ส่วนกรรมกรรมคนหนึ่งกล่าวว่านโยบายการเงินมีความเหมาะสมเหมือนนโยบายการเงินทั่วโลก และบีโอเจไม่ควรนิ่งนอนใจเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เพียงเพราะว่าราคาน้ำมันดิบเริ่มลดลง และอัตราค่าแรงไม่ได้กระตุ้นอัตราเงินเฟ้ออย่างรวด

ล่าสุด มีรายงานว่า บีโอเจได้คัดเลือกสถาบันการเงินต่างประเทศและญี่ปุ่นจำนวน 40 แห่งให้สามารถเข้ามีส่วนร่วมในการประมูลเงินทุนจากกองทุนที่ใช้สกุลเงินดอลลาร์ ที่บีโอเจได้ตกลงกันไว้ร่วมกับธนาคารกลางประเทศต่างๆ อีก 5 ประเทศ ด้วยเป้าหมายที่จะลดแรงกดดันที่มีต่อตลาดเงิน

ทั้งนี้ แบงก์ชาติญี่ปุ่น มีแนวโน้มว่าจะแจ้งสถาบันการเงินรับทราบถึงรายละเอียดในการจัดตั้งกองทุนในวันพุธที่จะถึงนี้ ซึ่งรวมถึงแบงก์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ , มิซูโฮ แบงก์ , โกลด์แมน แซคส์ และเครดิต สวิส ซิเคียวริตีส์ (เจแปน) โดยเงินกู้ที่แบงก์ชาติญี่ปุ่นจะปล่อยกู้มีมูลค่าทั้งสิ้น 3 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นเวลา 1 เดือน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นจะเปิดให้มีการประมูล ซึ่งถือเป็นการประมูลครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และธนาคารกลางแคนาดา ได้ตกลงจัดตั้งกองทุน 1.80 แสนล้านดอลลาร์ผ่านการทำสว็อปสกุลเงิน เพื่อปล่อยกู้แก่ธนาคารท้องถิ่นในญี่ปุ่นที่ไม่สามารถกู้ยืมเงินดอลลาร์ภายในประเทศได้ ซึ่งความพยายามดังกล่าวของทางการก็เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตตลาดเงินทั่วโลกลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้

โดยวิกฤตที่เกิดขึ้นหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง ล้มละลาย ตลอดจนวิกฤตที่เกิดขึ้นกับบริษัทประกันรายใหญ่อย่างอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) ที่ทำให้การกู้ยืมเงินสูงในตลาดพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก เนื่องจากธนาคารต่างไม่ไว้วางใจในสถานภาพทางการเงินของธนาคารด้วยกัน

บีโอเจได้เพิ่มจำนวนเงินเป็น 6 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการทำสว็อป ดีล กับเฟดสาขานิวยอร์ก และวางแผนที่จะจัดประมูลในลักษณะเดียวกันนี้อีกก่อนที่จะถึงช่วงสิ้นปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น