"บีโอเจ" ผวาวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ลามเข้าเอเชีย ฉีดเงินเข้าระบบอีก 2 ล้านล้านเยน เพื่อระงับความปั่นป่วนในตลาดการเงิน ดัชนีนิกเคอิทุรด 5% ขณะที่ราคาหุ้นแบงก์มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ร่วงลงถึง 7% หลังสูญเงิน 506 ล้านดอลล์ ในการลงทุนหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ หลังคองเกรสเมินแผนอุ้มสถาบันการเงิน "แบงก์อินเดีย" โต้ข่าวล้มละลาย
วันนี้ (30 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อัดฉีดเงินฉุกเฉิน 2 ล้านล้านเยนเข้าตลาดเงินโตเกียว เพื่อพยายามบรรเทาความปั่นป่วนทางการเงิน นับเป็นการอัดฉีดเป็นวันทำการที่ 10 ติดกัน และมีขึ้นหลังจากหุ้นนิกเคอิทรุดเกือบ 5% หลังจากสส.อเมริกันในสภาคองเกรส ไม่ยอมรับแผนอุ้มภาคการเงิน จนทำให้หุ้นดาวโจนส์ร่วงลงมากที่สุดในวันเดียว
รายงานข่าวยังระบุว่า ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นต้องขาดทุนถึง 506 ล้านดอลลาร์ เมื่อวานนี้ จากการลงทุนในหุ้นของมอร์แกน สแตนลีย์ มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่สภาคองเกรสไม่ยอมรับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐฯ มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
ตามแผนการลงทุนดังกล่าว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ตกลงว่า จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของมอร์แกน สแตนลีย์มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในราคา 25.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อวานนี้ หุ้นของวาณิชธนกิจรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 15% ปิดที่ 20.99 ดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า การขาดทุนของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงสำหรับบริษัทในเอเชียที่ต้องการเข้าไปทำกำไรในวอลล์ สตรีท โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ต่างดึงธนาคารและกองทุนเพื่อความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียเข้ามาลงทุนในองค์กรเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากราคาบ้านสหรัฐที่ร่วงลงทำให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะกดดันครั้งใหญ่
นาโอเทรุ เทราโอกะ จากชูโอ มิตซุย แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐเองก็ถือเป็นเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เรื่องนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ดังนั้นช่วงนี้อะไรๆก็อยู่ในภาวะเลวร้ายได้
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ในตลาดหุ้นโตเกียวร่วง 7% เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว หลังจากหุ้นไฟแนนซ์ในเอเชียร่วง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติไม่รับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
**แบงก์อินเดีย โต้ข่าวล้มละลาย
ธนาคาร ICICI ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดีย แถลงยืนยันว่า ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วอีกครั้งเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารนั้น ไม่มีมูลความจริงและมีจุดประสงค์ร้าย พร้อมทั้งยืนยันว่า ธนาคารมีฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งมาก
นายเค.วี.คามาธ ซีอีโอของ ICICI เปิดเผยว่า ธุรกิจธนาคาร และธุรกิจนอกกลุ่มธนาคารของ ICICI มีเงินทุนมากเพียงพอ และผลกระทบของภาวะตลาดในขณะนี้ต่อพอร์ทการลงทุนของธนาคารนั้น จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อฐานะเงินทุนแต่อย่างใด
วันนี้ (30 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อัดฉีดเงินฉุกเฉิน 2 ล้านล้านเยนเข้าตลาดเงินโตเกียว เพื่อพยายามบรรเทาความปั่นป่วนทางการเงิน นับเป็นการอัดฉีดเป็นวันทำการที่ 10 ติดกัน และมีขึ้นหลังจากหุ้นนิกเคอิทรุดเกือบ 5% หลังจากสส.อเมริกันในสภาคองเกรส ไม่ยอมรับแผนอุ้มภาคการเงิน จนทำให้หุ้นดาวโจนส์ร่วงลงมากที่สุดในวันเดียว
รายงานข่าวยังระบุว่า ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นต้องขาดทุนถึง 506 ล้านดอลลาร์ เมื่อวานนี้ จากการลงทุนในหุ้นของมอร์แกน สแตนลีย์ มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่สภาคองเกรสไม่ยอมรับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐฯ มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
ตามแผนการลงทุนดังกล่าว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ตกลงว่า จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของมอร์แกน สแตนลีย์มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในราคา 25.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อวานนี้ หุ้นของวาณิชธนกิจรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 15% ปิดที่ 20.99 ดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า การขาดทุนของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงสำหรับบริษัทในเอเชียที่ต้องการเข้าไปทำกำไรในวอลล์ สตรีท โดยมอร์แกน สแตนลีย์ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ต่างดึงธนาคารและกองทุนเพื่อความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียเข้ามาลงทุนในองค์กรเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากราคาบ้านสหรัฐที่ร่วงลงทำให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะกดดันครั้งใหญ่
นาโอเทรุ เทราโอกะ จากชูโอ มิตซุย แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐเองก็ถือเป็นเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เรื่องนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ดังนั้นช่วงนี้อะไรๆก็อยู่ในภาวะเลวร้ายได้
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ในตลาดหุ้นโตเกียวร่วง 7% เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว หลังจากหุ้นไฟแนนซ์ในเอเชียร่วง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติไม่รับรองแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
**แบงก์อินเดีย โต้ข่าวล้มละลาย
ธนาคาร ICICI ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดีย แถลงยืนยันว่า ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วอีกครั้งเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารนั้น ไม่มีมูลความจริงและมีจุดประสงค์ร้าย พร้อมทั้งยืนยันว่า ธนาคารมีฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งมาก
นายเค.วี.คามาธ ซีอีโอของ ICICI เปิดเผยว่า ธุรกิจธนาคาร และธุรกิจนอกกลุ่มธนาคารของ ICICI มีเงินทุนมากเพียงพอ และผลกระทบของภาวะตลาดในขณะนี้ต่อพอร์ทการลงทุนของธนาคารนั้น จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อฐานะเงินทุนแต่อย่างใด