PTTAR เร่งซ่อมหน่วยไฮโดรแครกเกอร์ที่มีปัญหา คาด จะเริ่มผลิตหน่วยกลั่นน้ำมันดิบได้อีกครั้งใน 2-3 วันนี้ หลังต้องปิดซ่อมโรงกลั่นมา 2 สัปดาห์ โดยเบื้องต้นปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลจะลดลงเหลือ 20% ของกำลังการกลั่น ยันไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการอะโรเมติกส์หน่วย 2 ที่อยู่ระหว่างการทดลองเครื่องจักร ลั่นสิ้น ก.ย.นี้ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ ส่วนการซื้อหุ้นคืนรอจังหวะก่อน
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) PTTAR เปิดเผยว่า หลังจากหน่วยกลั่นของบริษัทมีปัญหาในส่วนไฮโดรแครกเกอร์ ทำให้ต้องปิดซ่อมปรับปรุงเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่า ภายใน 2-3 วันนี้ บริษัทจะเปิดดำเนินการผลิตบางส่วนได้ อาทิ หน่วยกลั่นน้ำมันดิบขนาด 1.45 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่หน่วยอื่นๆ อาจจะยังต้องปิดซ่อมบำรุงต่อไป ส่งผลให้สัดส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเปลี่ยนแปลงไป โดยน้ำมันดีเซลที่ได้จะน้อยลงเหลือเพียง 20% จากเดิมที่มีสัดส่วนผลิตอยู่ 50% ของกำลังการกลั่น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการหยุดซ่อมโรงกลั่นดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 1.04 ล้านตัน/ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบเดินเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยหน่วยกลั่นแยกคอนเดนเสท 2 ซึ่งเป็นหน่วยผลิตรีฟอร์เมทเพื่อป้อนให้หน่วยผลิตอะโรเมติกส์ และ Upgrading Complex จะผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจากคอนเดนเสท เรซิดิว ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการกลั่นแยกคอนเดนเสท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมหน่วยกลั่นดังกล่าวแต่อย่างใด
นายชายน้อย กล่าวต่อไปว่า เดิมบริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้หรือกู้เงินสถาบันการเงินในปลายปีนี้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการผลิตโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ซึ่งจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายเดือนนี้ แม้ว่า บริษัทจะมีกระแสเงินสดสำรองแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากราคาน้ำมันผันผวน ทำให้ต้องมีการสำรองเงินทุนเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศไม่เอื้ออำนวยในการระดมทุนดังกล่าว ดังนั้นการออกหุ้นกู้หรือกู้เงินก็คงต้องรอจังหวะที่เหมาะสมเป็นสำคัญ
ส่วนความคืบหน้าการซื้อหุ้น PTTAR คืนนั้น นายชายน้อย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษากฎระเบียบ และข้อจำกัดต่าง รวมถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากปตท.ถือหุ้นในบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่นถึง 48% หากบริษัทฯตัดสินใจซื้อหุ้นคืน จะมีผลทำให้สัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมเปลี่ยนแปลงไป เช่น บมจ.ปตท. อันจะทำให้บริษัทฯเข้าข่ายการเป็นรัฐวิสาหกิจได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาหุ้นPTTAR ปรับตัวลดลงต่ำมากอยู่ที่ 20.90 บาท/หุ้น ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (บุคแวรู) ที่อยู่หุ้นละ 22.50 บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีหุ้นหลายตัวที่ราคาหุ้นต่ำกว่าบุคแวรู เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงขาลง เป็นผลมาจากปัญหาซับไพร์ม ดังนั้นโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาสดใสคงต้องรอให้นักลงทุนต่างชาติหวนกลับเข้ามาซื้อในอนาคต
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) PTTAR เปิดเผยว่า หลังจากหน่วยกลั่นของบริษัทมีปัญหาในส่วนไฮโดรแครกเกอร์ ทำให้ต้องปิดซ่อมปรับปรุงเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่า ภายใน 2-3 วันนี้ บริษัทจะเปิดดำเนินการผลิตบางส่วนได้ อาทิ หน่วยกลั่นน้ำมันดิบขนาด 1.45 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่หน่วยอื่นๆ อาจจะยังต้องปิดซ่อมบำรุงต่อไป ส่งผลให้สัดส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเปลี่ยนแปลงไป โดยน้ำมันดีเซลที่ได้จะน้อยลงเหลือเพียง 20% จากเดิมที่มีสัดส่วนผลิตอยู่ 50% ของกำลังการกลั่น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการหยุดซ่อมโรงกลั่นดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 1.04 ล้านตัน/ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบเดินเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยหน่วยกลั่นแยกคอนเดนเสท 2 ซึ่งเป็นหน่วยผลิตรีฟอร์เมทเพื่อป้อนให้หน่วยผลิตอะโรเมติกส์ และ Upgrading Complex จะผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจากคอนเดนเสท เรซิดิว ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการกลั่นแยกคอนเดนเสท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมหน่วยกลั่นดังกล่าวแต่อย่างใด
นายชายน้อย กล่าวต่อไปว่า เดิมบริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้หรือกู้เงินสถาบันการเงินในปลายปีนี้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการผลิตโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ซึ่งจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายเดือนนี้ แม้ว่า บริษัทจะมีกระแสเงินสดสำรองแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากราคาน้ำมันผันผวน ทำให้ต้องมีการสำรองเงินทุนเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศไม่เอื้ออำนวยในการระดมทุนดังกล่าว ดังนั้นการออกหุ้นกู้หรือกู้เงินก็คงต้องรอจังหวะที่เหมาะสมเป็นสำคัญ
ส่วนความคืบหน้าการซื้อหุ้น PTTAR คืนนั้น นายชายน้อย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษากฎระเบียบ และข้อจำกัดต่าง รวมถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากปตท.ถือหุ้นในบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่นถึง 48% หากบริษัทฯตัดสินใจซื้อหุ้นคืน จะมีผลทำให้สัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมเปลี่ยนแปลงไป เช่น บมจ.ปตท. อันจะทำให้บริษัทฯเข้าข่ายการเป็นรัฐวิสาหกิจได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาหุ้นPTTAR ปรับตัวลดลงต่ำมากอยู่ที่ 20.90 บาท/หุ้น ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (บุคแวรู) ที่อยู่หุ้นละ 22.50 บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีหุ้นหลายตัวที่ราคาหุ้นต่ำกว่าบุคแวรู เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงขาลง เป็นผลมาจากปัญหาซับไพร์ม ดังนั้นโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาสดใสคงต้องรอให้นักลงทุนต่างชาติหวนกลับเข้ามาซื้อในอนาคต