xs
xsm
sm
md
lg

บสท.โชว์ผลงาน7ปีบรรลุเป้า รับคืนหนี้-ขายทรัพย์ 1.5 แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บสท.โชว์ผลงาน 7 ปี บรรลุเป้าหมาย มียอดรับชำระหนี้-ขายทรัพย์แล้วกว่า 148,650 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก มีรายรับจากการปรับโครงสร้างหนี้กว่า 6.4 พันล้าน ขายทรัพย์-ขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันได้ 5.6 พันล้าน พร้อมทำแผนยุบเลิกบสท.ในปีที่ 10 ตามกำหนดต่อรมว.คลังแล้ว โดยเสนอให้หน่วยรัฐที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามารับโอนแทน

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยว่า เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บสท.ได้ดำเนินการเสนอแผนเพื่อเลิกดำเนินกิจการงานงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแผนการยุบเลิกบสท.เมื่อสิ้นปี 10 ตามที่กำหนดใน มาตรา 95 แห่ง พ.ร.ก. บสท. พ.ศ. 2544 งานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา โดยมีหลักการสำคัญที่จะไม่ให้มีภาระเพิ่มเติมต่อผู้มีส่วนได้เสียและภาษีอากรของประชาชน รวมทั้งรักษาให้ระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ จึงได้เสนอให้หน่วยงานของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการรับโอนการบริหารจัดการสินทรัพย์คงเหลือและทรัพย์สินรอการขายคงเหลือเมื่อครบ 10 ปีของการดำเนินงานของ บสท. ในปี 2554

“ปีนี้เป็น 7 ปีของการดำเนินงาน บสท.ประมาณการอัตราที่คาดว่าจะได้รับชำระคืน (Expected Recovery Rate) จากแผนการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ยุติโดยการปรับโครงสร้างหนี้หรือฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลาง อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 52.14 ของมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ยุติ โดย บสท. ได้รับชำระหนี้สะสมตามแผนปรับโครงสร้างหนี้รวมกว่า 174,220 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 74 ของมูลค่าแผนปรับโครงสร้างหนี้ แบ่งเป็นเงินรับชำระจากการปรับโครงสร้างหนี้สะสม 118,060 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66 ของแผนเงินสดรับชำระ และรับชำระจากการตีโอนทรัพย์สะสม 56,160 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98 ของแผนตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ นอกจากนี้ บสท. ได้บริหารจัดการให้ทรัพย์ที่ได้รับจากการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ และทรัพย์ที่ขายทอดตลาดบังคับหลักประกันให้ถูกใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจ มีมูลค่ารวมสะสมอีก 35,639 ล้านบาท ทำให้จำนวนเงินสดรับรวมสะสมจากการบริหารจัดการมีจำนวน 148,650 ล้านบาท”นายสมเจตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การบริหารการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายที่ได้รับจากการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้และจากการบังคับหลักประกันนั้น บสท. ได้เร่งจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายเพื่อให้ทรัพย์สินได้ถูกนำกลับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน โดย ณ เดือนมิถุนายน 2551 บสท. มียอดจำหน่ายสะสมจำนวน 35,639 ล้านบาท เฉพาะ 6 เดือนแรกของปี 2551 บสท. ได้ขายทรัพย์ดังกล่าวมีมูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท และ บสท. ได้สำรวจข้อมูลการลงทุนของผู้ซื้อทรัพย์จำนวน 40 ราย มูลค่าการซื้อทรัพย์ 1,400 ล้านบาท (จากจำนวนรวม 533 ราย) พบว่าผู้ซื้อทรัพย์ที่ให้ข้อมูลตามการสำรวจจะมีการลงทุนเพิ่มในทรัพย์ที่ซื้อจาก บสท.ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า มูลค่าประมาณ 3,400 ล้านบาท

นายสมเจตน์ กล่าวอีกว่า 6 เดือนแรกของปี 2551 บสท. มีรายรับจากการปรับโครงสร้างหนี้กว่า 6,424 ล้านบาท ขายทรัพย์สินรอการขายและขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันได้ประมาณ 5,600 ล้านบาท ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้สถาบันผู้โอนจำนวน 12,985 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 1,965 ล้านบาท โดย ณ 30 มิถุนายน 2551 บสท.มีลูกหนี้ตามแผนผ่อนชำระคงเหลือประมาณ 61,100 ล้านบาท ทรัพย์สินรอการขายที่ได้จากการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ และที่จะได้รับเพิ่มจากการบังคับหลักประกันซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการมูลค่าตามราคาประเมินรวมประมาณ 125,000 ล้านบาท ในขณะที่มีตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้กับสถาบันผู้โอนคงเหลือ 121,400 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น