xs
xsm
sm
md
lg

ไทยประกันเผย8เดือนเบี้ยโต11% รุกขยายฐานเพิ่มตัวแทน2หมื่นคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ 8 เดือนของปีมีเบี้ยประกันรับปีแรก 3,690 ล้าน โต 6% และเบี้ยประกันรับรวม 1.7 หมื่นล้าน โต 11% พร้อมวางแผนขยายเบี้ยต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนอีก 2 หมื่นคนจากที่มีอยู่ 2.5 หมื่นคน

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดถึงผลประกอบการ 8 เดือนแรกของปี 2551 ว่า บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 3,690 ล้านบาท เติบโต 6% เบี้ยประกันรับปีต่อไป 13,613 ล้านบาท เติบโต 8% และเบี้ยประกันรับรวม 17,303 ล้านบาท เติบโต 11% โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากประสิทธิภาพการขายผ่านตัวแทน ซึ่งปัจจุบันมีตัวแทนระดับหน่วยอยู่ประมาณ 25,000 คน และตั้งเป้าเพิ่มอีก 20,000 คนภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทได้ขยายช่องทางการขายด้านอื่นๆ เสริม อาทิ เทเลมาร์เก็ตติ้ง เวิร์กไซต์มาร์เก็ตติ้ง เป็นต้น

นอกเหนือจากผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องแล้ว ไทยประกันชีวิตยังมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ล่าสุดได้รับการจัดอันดับเครดิตทางการเงินจากสถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลก Standard & Poor’s (S&P) ที่ระดับ A- มุมมองเชิงมีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี

สำหรับหลักเกณฑ์ในการประเมินเพื่อจัดอันดับเครดิตดังกล่าว S&P ได้พิจารณาจากประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ อาทิ ส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งไทยประกันชีวิตมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสอง 14.8% เป็นผลมาจากเครือข่ายตัวแทนที่มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันกับบริษัทประกันชีวิตอื่นในตลาดได้ ซึ่งความเข้มแข็งดังกล่าว ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อหน่วยต่ำ และการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการรับประกัน ส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรจากการรับประกันเป็นหลัก เป็นผลจากขนาดขององค์กรที่ใหญ่รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการรับประกัน แม้ว่าบริษัทจะมีส่วนต่างกำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ เนื่องจากกรมธรรม์เดิมมีการการันตีอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าในอัตราที่สูง แต่อัตราส่วนการติดลบดังกล่าวลดเหลือน้อยกว่า 0.5% ในปี 2550 ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทยังคงมีความสามารถที่จะทำกำไรได้เพิ่มขึ้น

“ไทยประกันชีวิตมุ่งเสริมสร้างสถานะความมั่นคงทางการเงิน เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นใจแก่ผู้เอาประกัน เพราะธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่ระดมเงินออมระยะยาวจากประชาชน ดังนั้น ความมั่นคงในระยะยาวของบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า นอกเหนือจากรูปแบบกรมธรรม์และคุณภาพการบริการ”นายไชยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น