"สตีฟ ฟอร์บส์" ชี้ต้นเหตุ "แฟนนี เม-เฟรดดี แมค" ล้มทั้งยืน เนื่องจากมีขนาดสินเชื่อที่ขนาดใหญ่เกินไป และมีการปล่อยกู้แบบกระจุกตัวในธุรกิจบ้านเพียงอย่างเดียว ไม่มีการกระจายความเสี่ยง แนะรัฐบาลสหรัฐ หลังเข้าซื้อกิจการ ควรจะจับแบ่งทั้ง 2 บริษัท แตกให้เป็นกิจการที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม โดยนำหุ้นในบริษัทเดิมมาแลกเปลี่ยนกับหุ้นในบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า
วันนี้ (8 ก.ย.) นายสตีฟ ฟอร์บส์ ซีอีโอของฟอร์บส์ อิงค์ กล่าวในการประชุมฟอร์บส์ โกลบอล ซีอีโอที่สิงคโปร์ โดยระบุว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านที่รัฐบาลสหรัฐเข้าไปควบคุมกิจการนั้น น่าจะมีการแตกตัวเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีขนาดใหญ่มากจนเกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มลงไป
นายฟอร์บส์ กล่าวว่า การซื้อกิจการของ 2 บริษัท ซึ่งถือเป็นมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดปล่อยกู้ที่อยู่อาศัยของสหรัฐ จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นระยะสั้นๆ ได้ ในกลุ่มสถาบันการเงินทั่วโลกที่ถือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับบริษัททั้ง 2 โดยแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ควรจะแตกเป็นบริษัทเล็กและปรับปรุงเรื่องการหาและใช้เงินทุนใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตต่อกำไรของบริษัท
ซีอีโอฟอร์บส์ กล่าวต่อไปว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมคบริหารงานผิดพลาดมานาน พร้อมชี้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐแก้ปัญหาถูกต้องแล้ว เพราะองค์กรใหญ่ขนาดนี้ไม่สามารถปล่อยให้ล้มลงไปได้ เราต้องไม่ปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ฟอร์บส์ ยังได้กล่าวว่า แฟนนี แม และเฟรดดี แมค ควรจะถูกจับแบ่งเป็นกิจการที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม โดยนำหุ้นในบริษัทเดิมมาแลกเปลี่ยนกับหุ้นในบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า รัฐบาลเองก็จะมีวอร์แรนท์ในบริษัทเหล่านี้ เพื่อที่ผู้จ่ายภาษีจะได้นำเงินทุนมาระดมทุนใหม่ได้ การที่ผลักดันบริษัทออกสู่ตลาดโลกนั้นดีกว่าผูกติดบริษัทไว้กับรัฐบาล ควรปล่อยให้บริษัทแข่งขันกับบริษัทเอกชนด้วยกัน หากบริษัทใดบริษัทหนึ่งประสบปัญหา บริษัทที่เหลือก็จะเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาได้ เราก็จะไม่เกิดวิกฤตเหมือนที่เกิดขึ้นในตอนนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐควรจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะถดถอยในตลาดอสังหาฯอีก โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.6038 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นอัตราที่อ่อนตัวที่สุดนับตั้งแต่มีการใช้เงินยูโรเมื่อเดือนม.ค. 2542
วันนี้ (8 ก.ย.) นายสตีฟ ฟอร์บส์ ซีอีโอของฟอร์บส์ อิงค์ กล่าวในการประชุมฟอร์บส์ โกลบอล ซีอีโอที่สิงคโปร์ โดยระบุว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านที่รัฐบาลสหรัฐเข้าไปควบคุมกิจการนั้น น่าจะมีการแตกตัวเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีขนาดใหญ่มากจนเกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มลงไป
นายฟอร์บส์ กล่าวว่า การซื้อกิจการของ 2 บริษัท ซึ่งถือเป็นมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดปล่อยกู้ที่อยู่อาศัยของสหรัฐ จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นระยะสั้นๆ ได้ ในกลุ่มสถาบันการเงินทั่วโลกที่ถือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับบริษัททั้ง 2 โดยแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ควรจะแตกเป็นบริษัทเล็กและปรับปรุงเรื่องการหาและใช้เงินทุนใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตต่อกำไรของบริษัท
ซีอีโอฟอร์บส์ กล่าวต่อไปว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมคบริหารงานผิดพลาดมานาน พร้อมชี้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐแก้ปัญหาถูกต้องแล้ว เพราะองค์กรใหญ่ขนาดนี้ไม่สามารถปล่อยให้ล้มลงไปได้ เราต้องไม่ปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ฟอร์บส์ ยังได้กล่าวว่า แฟนนี แม และเฟรดดี แมค ควรจะถูกจับแบ่งเป็นกิจการที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม โดยนำหุ้นในบริษัทเดิมมาแลกเปลี่ยนกับหุ้นในบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า รัฐบาลเองก็จะมีวอร์แรนท์ในบริษัทเหล่านี้ เพื่อที่ผู้จ่ายภาษีจะได้นำเงินทุนมาระดมทุนใหม่ได้ การที่ผลักดันบริษัทออกสู่ตลาดโลกนั้นดีกว่าผูกติดบริษัทไว้กับรัฐบาล ควรปล่อยให้บริษัทแข่งขันกับบริษัทเอกชนด้วยกัน หากบริษัทใดบริษัทหนึ่งประสบปัญหา บริษัทที่เหลือก็จะเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาได้ เราก็จะไม่เกิดวิกฤตเหมือนที่เกิดขึ้นในตอนนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐควรจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะถดถอยในตลาดอสังหาฯอีก โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.6038 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นอัตราที่อ่อนตัวที่สุดนับตั้งแต่มีการใช้เงินยูโรเมื่อเดือนม.ค. 2542