8 เดือนเม็ดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(Provident Fund)ทั้งระบบเติบโตเพิ่ม 12,496 ล้านบาท อยู่ที่ 454,217 ล้านบาท แม้ปรับตัวลดลงจากเดือนมิ.ย. 1,174 ล้านบาท ด้านบลจ.ทิสโก้ครองแชมป์ครองส่วนแบ่งมากที่สุดตามคำคุยกว่า 6.4 หมื่นล้าน "กรุงไทย"แชมป์เก่าตามติดเป็นอันดับ2. ขณะที่ "ไอเอ็นจี"เติบโตจนต้องจับตา เหตุได้รับความไว้วางใจจากองค์กรภาครัฐเพิ่มขึ้น
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยข้อมูลยอดเงินลงทุนทั้งระบบของอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551ว่ามีทั้งสิ้น 454,217.20 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาซึ่งมียอดเงินทั้งระบบรวม 455,391.86 ล้านบาท กว่า 1,174.66 ล้านบาท หรือ 0.26% แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 ซึ่งมียอดเงินอยู่เพียง441,720.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,496.94ล้านบาท
สำหรับ 10 บริษัทจัดการที่มีเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงที่สุด พบว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ (จำกัด) มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 64,624.35 ล้านบาท โดยเปรียเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 257.39ล้านบาท เเละเมื่อเปรียบเทียบไปกับเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 1,898.47 ล้านบาท
ส่วนอันดับที่ 2 คือบลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งหมด 62,172.52 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินลดลงถึง 338.50 ล้านบาท ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินล่าสุดกับเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว บลจ.ดังกล่าวมีจำนวนเงินในกองทุนลดลงมากถึง 9,201.29 ล้านบาท
รายงานข่าวระบุต่อว่า บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 54,010.32 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินภายในกองทุนลดลงถึง 363.39 ล้านบาท เเต่ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินในเดือนธันวามคม 2550กับจำนวนเงินล่าสุดกับพบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 2,268.19 ล้านบาท
ขณะที่อันดับ4.บลจ.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีเงินจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 51,075.64 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนนั้นมีจำนวนเงินลดลง 341.99 ล้านบาท เเต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมของปีที่เเล้วพบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 3,149.52 ล้านบาท อันดับ5. บบลจ.ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 45,979.89 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนเงินลดลงเพียง 66.49 ล้านบาท เเต่เมื่อนำจำนวนเงินล่าสุดของกองทุนเทียบกับเดือนธันวาคม 2551 พบว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทมีจำนวนเงินลดลงถึง 5,759.79 ล้านบาท
ขณะที่บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอันดับที่ 6 โดยมีเงินในกองทุนอยู่ที่ 42,188.23 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันพบว่ามีจำนวนเงินลดลงเพียง 153.28 ล้านบาท เเต่เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมากับจำนวนเงินล่าสุดนั้น และมีเงินเพิ่มขึ้นถึง 5,638.47 ล้านบาท
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวถึงจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เพิ่มขึ้นว่า เนื่องจากมีองค์กรของรัฐบาลให้เราทำหน้าที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้บริษัทมีจำนวนเงินในธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้น ส่วนเเผนการขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายไปสู่ลูกค้าระดับกลางให้มากขึ้น
อันดับที่ 7 คือ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพล่าสุดอยู่ที่ 40,160.04 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 107.12 ล้านบาท เเต่เมื่อนำจำนวนเงินในกองทุนไปเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 17,935.83 ล้านบาท ส่วนอันดับที่ 8.บลจ.ฟินันซ่า จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 18,847.42 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงเพียง 57.55 ล้านบาท เเต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 1,045.15 ล้านบาท
ด้านอันดับ9. บลจ.บีที จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 17,694.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงถึง 136.10 ล้านบาท เเต่เมื่อเทียบกับธันวามคม 2550 พบว่ามีการปรับตัวลดลงถึง 4,703.29 ล้านบาท เเละอันดับที่10 บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นเเนลเเอสชัวรันส์ จำกัด หรือ AIA มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 16,079.06 ล้านบาท เทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 65.07 ล้านบาท ซึ่งเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงถึง 3,746.80 ล้านบาท
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยข้อมูลยอดเงินลงทุนทั้งระบบของอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551ว่ามีทั้งสิ้น 454,217.20 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาซึ่งมียอดเงินทั้งระบบรวม 455,391.86 ล้านบาท กว่า 1,174.66 ล้านบาท หรือ 0.26% แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 ซึ่งมียอดเงินอยู่เพียง441,720.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,496.94ล้านบาท
สำหรับ 10 บริษัทจัดการที่มีเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงที่สุด พบว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ (จำกัด) มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 64,624.35 ล้านบาท โดยเปรียเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 257.39ล้านบาท เเละเมื่อเปรียบเทียบไปกับเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 1,898.47 ล้านบาท
ส่วนอันดับที่ 2 คือบลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งหมด 62,172.52 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินลดลงถึง 338.50 ล้านบาท ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินล่าสุดกับเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว บลจ.ดังกล่าวมีจำนวนเงินในกองทุนลดลงมากถึง 9,201.29 ล้านบาท
รายงานข่าวระบุต่อว่า บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 54,010.32 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินภายในกองทุนลดลงถึง 363.39 ล้านบาท เเต่ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินในเดือนธันวามคม 2550กับจำนวนเงินล่าสุดกับพบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 2,268.19 ล้านบาท
ขณะที่อันดับ4.บลจ.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีเงินจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 51,075.64 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนนั้นมีจำนวนเงินลดลง 341.99 ล้านบาท เเต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมของปีที่เเล้วพบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 3,149.52 ล้านบาท อันดับ5. บบลจ.ไทยพาณิชย์ มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 45,979.89 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนเงินลดลงเพียง 66.49 ล้านบาท เเต่เมื่อนำจำนวนเงินล่าสุดของกองทุนเทียบกับเดือนธันวาคม 2551 พบว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทมีจำนวนเงินลดลงถึง 5,759.79 ล้านบาท
ขณะที่บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอันดับที่ 6 โดยมีเงินในกองทุนอยู่ที่ 42,188.23 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันพบว่ามีจำนวนเงินลดลงเพียง 153.28 ล้านบาท เเต่เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมากับจำนวนเงินล่าสุดนั้น และมีเงินเพิ่มขึ้นถึง 5,638.47 ล้านบาท
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวถึงจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เพิ่มขึ้นว่า เนื่องจากมีองค์กรของรัฐบาลให้เราทำหน้าที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้บริษัทมีจำนวนเงินในธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้น ส่วนเเผนการขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายไปสู่ลูกค้าระดับกลางให้มากขึ้น
อันดับที่ 7 คือ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพล่าสุดอยู่ที่ 40,160.04 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 107.12 ล้านบาท เเต่เมื่อนำจำนวนเงินในกองทุนไปเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 17,935.83 ล้านบาท ส่วนอันดับที่ 8.บลจ.ฟินันซ่า จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 18,847.42 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงเพียง 57.55 ล้านบาท เเต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2550 พบว่ามีจำนวนเงินเพิ่มขึ้นถึง 1,045.15 ล้านบาท
ด้านอันดับ9. บลจ.บีที จำกัด มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 17,694.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงถึง 136.10 ล้านบาท เเต่เมื่อเทียบกับธันวามคม 2550 พบว่ามีการปรับตัวลดลงถึง 4,703.29 ล้านบาท เเละอันดับที่10 บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นเเนลเเอสชัวรันส์ จำกัด หรือ AIA มีจำนวนเงินในกองทุนทั้งสิ้น 16,079.06 ล้านบาท เทียบกับเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันมีจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 65.07 ล้านบาท ซึ่งเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมามีจำนวนเงินลดลงถึง 3,746.80 ล้านบาท