ปัญหาบ้านเอื้ออาทรเป็นดินพอกหางหมู ผู้รับเหมาสุดทน ร้องสมาคมอุตสาหกรรมฯ ช่วย ก่อนเจ๊ง เตรียมยื่น 7 ปัญหาหลักเสนอผู้ว่าฯการเคหะฯช่วยสะสาง ระบุปัญหาใหญ่ขอปรับราคาค่าก่อสร้างใหม่ ให้ใช้มาตรฐานการดำเนินงานเดียวกันทุกโครงการ พร้อมขอความชัดเจนของจำนวนหน่วยที่ต้องพัฒนาหลังปรับลด
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง กรรมการบริหารสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ กล่าวว่า สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ได้ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเชิญผู้รับเหมาที่ประสบปัญหากว่า30 รายร่วมเจรจาหาข้อสรุปปัญหาที่ต้องการให้การเคหะฯ ช่วยเหลือ โดยในเบื้อต้นจะมีการผลักดันให้ผู้ประกอบการพิสูจน์ราคา และเตรียมนำข้อสรุปปัญหาความต้องการที่ชัดเจน พร้อมข้อเสนอขอความช่วยเหลือบนพื้นฐานของ ความเป็นธรรม ยื่นเสนอต่อนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อสรุปจากการหารือกันระหว่างสมาคมฯ กับผู้ประกอบการก่อสร้างที่ดำเนินงานให้กับการเคหะฯ7 ข้อหลักๆประกอบด้วย 1.ขอปรับราคาค่าก่อสร้าง บ้านเอื้อฯเนื่องจากราคาตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2546-2547 จนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และไม่สามารถคงราคาเดิมได้ ทั้งนี้ถือเป็นภาระของผู้ประกอบการที่จะต้องพิสูจน์ราคาค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผู้ซื้อเป็นหลัก
2. การเสนอแนวทางในการปรับปรุงแบบ ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง โดยอยู่บนพื้นฐานของคุณภาพมาตรฐาน อาทิ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบไฟฟ้าฯลฯ 3. ให้การเคหะฯ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในส่วนที่เกินกว่า TOR กำหนด ทั้งนี้ เป็นข้อกำหนดที่เกิดขึ้นภายหลัง และไม่อยู่ในราคาที่ประมาณการไว้ก่อน
4.การบริหารสัญญา ที่ทางการเคหะแห่งชาติ ได้แบ่งการบริหารโครงการโดยให้รองผู้ว่าการฯ แต่ละท่านรับผิดชอบ ซึ่งการพิจารณาและอนุมัติเรื่องต่างๆนั้นไม่อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน และการตัดสินใจแก้ไขในปัญหาต่างๆ ดำเนินไปด้วยความล่าช้า 5.ขอขยายเวลา 180 วัน ตามมติครม. ขอให้การเคหะฯไม่คิดดอกเบี้ยจากผู้ประกอบการเหมือนดั่งเช่นเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นปี50, 6.ขอปรับการรับงานโครงการจากการเคหะฯที่ไม่มีค่า K เปลี่ยนเป็นให้โครงการมีค่า K ซึ่งประเด็นดังกล่าวหากได้รับการพิจารณา ก็คงไม่ต้องขอปรับราคาค่าก่อสร้าง และ7. ขอทราบความชัดเจนจากทางการเคหะแห่งชาติว่า จำนวนบ้านเอื้ออาทรที่มีการปรับลดแต่ละโครงการมีปริมาณเท่าไร เพื่อผู้ประกอบการจะได้วางแผนการจัดการโครงการได้ถูกต้อง
นายกฤดา กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของราคาค่าก่อสร้างในปัจจุบัน ถือเป็นความผิดปกติอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการรับมือไม่ไหว รัฐควรให้การรับผิดชอบเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น และควรให้หน่วยงานหรือสถาบันกลางต่างๆ จากภาครัฐตรวจสอบราคาต้นทุนของบ้าน และถอดราคาชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ
นอกจากเรื่องราคาแล้ว ยังโยงไปถึงเรื่องการครอบครองทรัพย์สิน เมื่อผู้บริโภคซื้อแล้วแต่ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ ปัญหาการโครงการไม่ผ่านการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลการะทบสิ่งแวดล้อม (สวล.) เพราะเป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษไม่ควรเข้าข่ายต้องของ สวล. ซึ่งปัญหาต่างๆดังกล่าวเกิดขึ้นมานับจากเริ่มโครงการบ้านเอื้อาทรแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ส่วนการที่ทางการเคหะฯ ไม่ออกมาแก้ไขให้ความช่วยเหลือนั้น จะทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ซื้อ หรือผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยในระยะยาว ตลอดจนให้ทางการเคหะฯคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมถึงการปรับปรุงแบบให้มีประโยชน์ใช้สอยเท่าเดิม แต่ยังคงคุณภาพตามมาตรฐาน เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ซื้อน้อยที่สุด
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง กรรมการบริหารสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ กล่าวว่า สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ได้ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเชิญผู้รับเหมาที่ประสบปัญหากว่า30 รายร่วมเจรจาหาข้อสรุปปัญหาที่ต้องการให้การเคหะฯ ช่วยเหลือ โดยในเบื้อต้นจะมีการผลักดันให้ผู้ประกอบการพิสูจน์ราคา และเตรียมนำข้อสรุปปัญหาความต้องการที่ชัดเจน พร้อมข้อเสนอขอความช่วยเหลือบนพื้นฐานของ ความเป็นธรรม ยื่นเสนอต่อนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อสรุปจากการหารือกันระหว่างสมาคมฯ กับผู้ประกอบการก่อสร้างที่ดำเนินงานให้กับการเคหะฯ7 ข้อหลักๆประกอบด้วย 1.ขอปรับราคาค่าก่อสร้าง บ้านเอื้อฯเนื่องจากราคาตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2546-2547 จนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และไม่สามารถคงราคาเดิมได้ ทั้งนี้ถือเป็นภาระของผู้ประกอบการที่จะต้องพิสูจน์ราคาค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผู้ซื้อเป็นหลัก
2. การเสนอแนวทางในการปรับปรุงแบบ ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง โดยอยู่บนพื้นฐานของคุณภาพมาตรฐาน อาทิ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบไฟฟ้าฯลฯ 3. ให้การเคหะฯ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในส่วนที่เกินกว่า TOR กำหนด ทั้งนี้ เป็นข้อกำหนดที่เกิดขึ้นภายหลัง และไม่อยู่ในราคาที่ประมาณการไว้ก่อน
4.การบริหารสัญญา ที่ทางการเคหะแห่งชาติ ได้แบ่งการบริหารโครงการโดยให้รองผู้ว่าการฯ แต่ละท่านรับผิดชอบ ซึ่งการพิจารณาและอนุมัติเรื่องต่างๆนั้นไม่อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน และการตัดสินใจแก้ไขในปัญหาต่างๆ ดำเนินไปด้วยความล่าช้า 5.ขอขยายเวลา 180 วัน ตามมติครม. ขอให้การเคหะฯไม่คิดดอกเบี้ยจากผู้ประกอบการเหมือนดั่งเช่นเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นปี50, 6.ขอปรับการรับงานโครงการจากการเคหะฯที่ไม่มีค่า K เปลี่ยนเป็นให้โครงการมีค่า K ซึ่งประเด็นดังกล่าวหากได้รับการพิจารณา ก็คงไม่ต้องขอปรับราคาค่าก่อสร้าง และ7. ขอทราบความชัดเจนจากทางการเคหะแห่งชาติว่า จำนวนบ้านเอื้ออาทรที่มีการปรับลดแต่ละโครงการมีปริมาณเท่าไร เพื่อผู้ประกอบการจะได้วางแผนการจัดการโครงการได้ถูกต้อง
นายกฤดา กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของราคาค่าก่อสร้างในปัจจุบัน ถือเป็นความผิดปกติอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการรับมือไม่ไหว รัฐควรให้การรับผิดชอบเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น และควรให้หน่วยงานหรือสถาบันกลางต่างๆ จากภาครัฐตรวจสอบราคาต้นทุนของบ้าน และถอดราคาชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ
นอกจากเรื่องราคาแล้ว ยังโยงไปถึงเรื่องการครอบครองทรัพย์สิน เมื่อผู้บริโภคซื้อแล้วแต่ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ ปัญหาการโครงการไม่ผ่านการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลการะทบสิ่งแวดล้อม (สวล.) เพราะเป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษไม่ควรเข้าข่ายต้องของ สวล. ซึ่งปัญหาต่างๆดังกล่าวเกิดขึ้นมานับจากเริ่มโครงการบ้านเอื้อาทรแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ส่วนการที่ทางการเคหะฯ ไม่ออกมาแก้ไขให้ความช่วยเหลือนั้น จะทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ซื้อ หรือผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยในระยะยาว ตลอดจนให้ทางการเคหะฯคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมถึงการปรับปรุงแบบให้มีประโยชน์ใช้สอยเท่าเดิม แต่ยังคงคุณภาพตามมาตรฐาน เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ซื้อน้อยที่สุด
