xs
xsm
sm
md
lg

DEMCO เซ็นต์เอ็มโอยูสร้างโรงไฟฟ้า เดินแผนจับมือพันธมิตรผุดเพิ่ม 5 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

DEMCO เซ็นต์เอ็มโอยูรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลม ขนาด 100 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท เดินหน้าขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.-กฟภ. คาดเสร็จปี 53 พร้อมดึงพันธมิตรสำรวจพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลมก่อนผุดเพิ่มอีก 5 แห่ง

นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) ( DEMCO ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) กับบริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการผลิตกระแสไฟฟ้าจากกังหันลม เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลม ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ กำลังการผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ มูลค่างาน 1.5 พันล้านบาท จากมูลค่าการลงทุนในโครงการทั้งสิ้น 6 พันล้านบาท หลังจากที่สำรวจพื้นที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลมมาแล้วกว่า 1 ปี

โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้จากโครงการดังกล่าว จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 60 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 40 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มออกแบบโครงการได้ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมขออนุญาตและลงมือก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ในช่วงต้นปี 2552 โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มขายไฟฟ้าได้ภายในปี 2553

"โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่าง DEMCO กับซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น โดยDEMCO จะรับผิดชอบในส่วนของงานก่อสร้างถนน สถานีไฟฟ้า สายส่งและดำเนินการติดตั้งกังหันลม ที่มีมูลค่างานก่อสร้างรวมกว่า 1.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นมูลค่าโครงการที่เกิดจากการจัดซื้อกังหันลมกว่า 50 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2 เมกะวัตต์" นายประเดช กล่าว

ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม เนื่องจากมีภูมิประเทศหลายแห่ง เป็นพื้นที่ที่สามารถลงทุนในการก่อสร้าง ซึ่งจะสอดรับกับภาครัฐที่มีนโยบายในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าจากธรรมชาติ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของไทยที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% ต่อปี ดังนั้น โรงไฟฟ้าจากกังหันลมจึงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างยิ่งแม้ว่า ต้นทุนการก่อสร้างจะสูง

โดย DEMCO มีแผนที่จะรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลมอีก 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ มูลค่าของแต่ละโครงการไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งในขณะนี้บริษัทซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ คาดว่าทั้ง 5 โครงการ บริษัทฯ จะเข้าไปดำเนินการรับงานก่อสร้างเช่นเดียวกับโครงการแรก มีระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 2553-2555 คาดได้ว่าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะช่วยเสริมให้รายได้ของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น