xs
xsm
sm
md
lg

บจ.mai รายได้รวมปี 50 กว่า 4 หมื่นล.สวนทางกำไรหดเหตุเศรษฐกิจชะลอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บริษัทจดทะเบียนใน mai ประกาศรายได้ประจำปี 50 รวมกัน 44,727 ล้านบาท และมีกำไรรวม 1,961 ล้านบาท โดย UMS, UEC และ GFM กำไรสูงสุด 3 ลำดับแรก ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แม้รายได้เพิ่มแต่ผลจาการแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้กำไรโดยรวมลดลง

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 49 แห่ง นำส่งผลการดำเนินงานประจำปี 2550 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ปรากฏว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai มีรายได้รวมทั้งสิ้น 44,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 40,179 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยมีกำไรสุทธิรวม 1,961 ล้านบาท ลดลงจากปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 2,181 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 10 ทั้งนี้ มีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 41 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 84 และบริษัทที่ขาดทุนสุทธิ 8 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 16

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่มีกำไรสุทธิประจำปี 2550 เกิน 100 ล้านบาท มีจำนวน 8แห่ง ได้แก่ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรสุทธิ 364 ล้านบาท บมจ.ยูนิมิต เอ็นจิเนียริ่ง (UEC) มีกำไรสุทธิ 330 ล้านบาท บมจ.โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) มีกำไรสุทธิ 186 ล้านบาท บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) มีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท บมจ. ถิรไทย (TRT) มีกำไรสุทธิ121 ล้านบาท บมจ. ซี.ไอ. กรุ๊ป (CIG) มีกำไรสุทธิ 107 ล้านบาท บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ (MILL) มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท และ บมจ. โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ (TNH) มีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท

ทั้งนี้ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) บมจ.ยูนิมิต เอ็นจิเนียริ่ง (UEC) และ บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) ทำสถิติบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 1 ใน 5 อันดับแรกตั้งแต่ผลการดำเนินงานประจำปี 2548 เป็นต้นมา

นายชนิตร กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจ ในปี 2550 ซึ่งแม้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาน้ำมันและค่าขนส่ง ตลอดจนปัจจัยค่าเงินบาท ประกอบกับปีที่ผ่านมาการลงทุนภาครัฐชะลอตัว ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากงานด้านโครงการลดลง กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบสำหรับผลประกอบการปี 2550 ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง อุตสาหกรรมสื่อและบริการ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร”

ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 51 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 40,016 ล้านบาท ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 269.89 (เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2551)
กำลังโหลดความคิดเห็น