xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นจับตาการเมือง 26 ส.ค.ชุมนุมใหญ่ตะเพิด รบ.หุ่นเชิดทำชาติล่มจม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์ ชี้ ตลาดหุ้นไทย กังวลภาวะการเมืองในประเทศ หลังพันธมิตรฯ เป่านกหวีดชุมนุมใหญ่ ตะเพิดรัฐบาลนอมินีแม้วทำชาติล่มจม ท่ามกลางความเปราะบางของรัฐบาลที่มีคดีเรียงคิวเชือดเพียบ หวั่นคดีหมิ่นประมาท-เป็นพิธีกรรายการทีวีของ “สมัคร” เป็นจุดดับรัฐบาล สั่งขายด่วน แนวรับ 670 จุด แนวต้าน 680 จุด

วันนี้ (25 ส.ค.) นายชัย จิระเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน จำกัด กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวมดัชนีช่วงเช้า อยู่ในแดนลบตลอดการซื้อขาย หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นพลังงานซึ่งมีมาร์เก็ตแคปใหญ่ อาทิเช่น PTT, PTTEP นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองทั้งกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ และการแถลงข่าวของ นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดยกล่าวข่มขู่ถึงกรณีเกิดเหตุมือที่ 3 วางบึ้ม ไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล

“กรณีที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ โดยแนวโน้มดัชนีช่วงบ่าย ยังพบว่า มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากช่วงเช้า เพราะปัจจัยการเมืองยังกดดันจิตวิทยาการลงทุน”

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อหุ้นแบงก์ SCB KBANK BBL หุ้นกลุ่มอสังหาฯ QH LH LPN ทั้งนี้ ประเมินแนวรับดัชนีที่ระดับ 675-670 จุด แนวต้าน 686-687 จุด

นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ปรับตัวลดลงแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจัยชี้นำสำคัญจะปรับขึ้นแรงเกือบ 200 จุด ซึ่งเป็นเพราะว่าในช่วงนี้แรงกดดันจากความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศมีน้ำหนักต่อบรรยากาศการลงทุนมากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะประกาศเป่านกหวีดระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดจากทุกจังหวัด วันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก

โดยการชุมนุมใหญ่วันดังกล่าวจะมีการเคลื่อนขบวนประชาชนจำนวนมากไปยังสถานที่ที่เห็นความจำเป็นหลายแห่ง ซึ่งจะมีการหารือในระดับแกนนำอีกครั้ง ว่าจะเดินทางไปที่ใดบ้าง นอกจากนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ จะนำสมาชิกเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯด้วย ไม่ต่ำกว่า 3 พันคน และประกาศว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างแน่นอน

ในขณะที่วันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะเป็นวันที่ รมว.ต่างประเทศ นายเตช บุนนาค จะหารือกับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เรื่องการยกเลิกพาสปอร์ตทางการทูตของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อันถือเป็นวาระแห่งชาติ ทำให้นักลงทุนอาจหวั่นเกรงว่าสถานการณ์จะรุนแรงถึงขั้นแตกหัก จึงมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา ประกอบกับการปรับเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่ทำให้เกิดความไว้วางใจว่าวิกฤตตลาดการเงินจะจบสิ้นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ยังคงสะท้อนถึงความเสียหายของระบบการเงิน ตลาดหุ้นไทยจึงไม่ให้ความสำคัญกับปัจจัยบวกดังกล่าว

ในขณะที่สถานการณ์ของรัฐบาลยังเปราะบาง จากคดีความของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานในสำนวนคดีที่ กกต.และสมาชิกวุฒิสภา ร้องขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีจัดรายการชิมไปบ่นไป ในวันที่ 8 กันยายน และศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ นายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยการโฆษณา ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.และหากมีความผิดจริงจะทำให้นายสมัครขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะทำให้คณะรัฐมนตรีต้องยุติการทำงานกลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายแนวรับ 670 จุด แนวต้าน 680 จุด

น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง สวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่แดนบวก ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงถ่วงจากกลุ่มพลังงานที่มีแรงขายออกมาหลังจากราคาน้ำมันร่วงแรง อย่างไรก็ดีมีแรงซื้อเข้ามาบ้างที่หุ้นในกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาฯบางตัว แต่เนื่องจากกลุ่มพลังงานมีมาร์เก็ตแคปที่ใหญ่มากในตลาดฯทำให้แรงซื้อของกลุ่มอื่นไม่สามารถชดเชยได้

นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการนัดชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) ที่จะต้องจับตาดูเหตุการณ์ และยังเฝ้ารอดูการประชุม กนง.ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ซึ่งจะมีการพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ย R/P อีกทั้งยังมีเรื่องที่จะมีการ review มาตรการของรัฐฯ 6 ข้ออีกด้วย ช่วงนี้นักลงทุนคงจะยังไม่ไว้วางใจในเรื่องความเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศ จึงทำให้ Wait & See ก่อน

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) น.ส.อาภาพร กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดคงจะแกว่งตามกระแสข่าวในแต่ละวันที่ออกมา พร้อมให้กรอบการแกว่งของสัปดาห์นี้โดยมีแนวรับสำหรับการเก็งกำไรที่ 670 จุด ส่วนแนวรับจริงอยู่ที่ 650 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 690 จุด


ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นภาคบ่ายปิดตลาดในแดนลบที่ระดับ 678.20 จุด ลดลง 3.73 จุด เปลี่ยนแปลง 0.55% มูลค่าการซื้อขาย 7,530.70 ล้านบาท โดยมี 3 หลักทรัพย์ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนลบ คือ PTTEP ปิดที่ระดับ 146.00 บาท ลดลง 4.00 บาท รองลงมา คือ PTT ปิดที่ระดับ 26.00 บาท ลดลง 4.00 บาท และ BANPU ปิดที่ระดับ 392.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น