“สมศักดิ์” ชี้ ระบอบทักษิณ และ รบ.หุ่นเชิด ทำชาติหายนะ มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจะเกิดขึ้นอีกแน่ หากผู้กล้าทุกคนไม่ออกมาสู้ ชี้ เป่านกหวีดครั้งนี้ ถือเป็นการร่วมใจสู้ เพื่อเอาประชาธิปไตยกลับคืนมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เชื่อผู้กล้าทุกคนจะถูกจารึกชื่อไว้ว่าเป็นผู้ปกป้องชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ หลังมีการประกาศรวมตัวชุมนุม ครั้งใหญ่ของพันธมิตรฯ ในวันอังคารที่ 26 ส.ค.นี้ว่า ว่าตลอดระยะเวลา 90 วันแห่งการชุมนุม ของกลุ่มพันธมิตรฯในครั้งนี้ รวมไปถึงการชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีต้องออกจากตำแหน่ง และพรรคไทยรักไทยก็ถูกตัดสินยุบพรรคไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นสิ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า พรรคการเมืองดังกล่าวไม่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ หรือสร้างประโยชน์สุขให้แก้มวลชนชาวไทย
แต่ถึงแม้พรรคดังกล่าวจะถูกตัดสินยุบพรรคไปแล้ว ก็ยังมีการสร้างพรรคพลังประชาชนขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคการเมืองหุ่นเชิด ที่คอยทำตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ดี ซึ่งการกระทำของพรรคการเมืองหุ่นเชิดที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีนี่เอง ก็ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการยกอำนาจอธิปไตยของชาติไปให้กับรัฐบาลกัมพูชา
และที่สำคัญคนที่อยู่ภายใต้คำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หลงเหลืออยู่ในสภานิติบัญญัติ และฝ่ายรัฐบาล ก็ยังกล่าวหากระบวนการยุติธรรม ที่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศ ว่ามาก้าวกายการทำงานของรัฐบาล นั่นก็เพราะคนเหล่านี้รู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมที่ยังมีอยู่เป็นปัญหาต่อการทุจริตโกงกินของพวกเขา เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมื่อเดินทางออกนอกประเทศไป ก็เอาแต่กล่าวหากกระบวนการยุติธรรม กล่าวหาประเทศบ้านเกิดของตัวเองว่าไม่ยุติธรรม แล้วป่าวประกาศไปทั่วโลก ซึ่งสาเหตุหลักเหล่านี้เองที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องเป่านกหวีด เรียกร้องให้พี่น้องประชาชน ออกมาชุมนุมใหญ่ร่วมกันในครั้งนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าสาเหตุที่ต้องรีบออกขับไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไปโดยเร็ว ก็เพราะรัฐบาล และ ส.ส ของพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้ทำตัวเป็นผู้แทนราษฎรอย่างแท้จริง เพราะหากเขาเป็นผู้แทนราษฎรจริงเขาต้องทำเพื่อผลประโยชน์และประชาชน แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ เพราะคนพวกนี้เอาแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คอยถามแต่ว่าทำไมต้องออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยถามว่าเหตุใดจึงยกเขาพระวิหารให้กัมพูชา หรือทำไมเมื่อกัมพูชามารุกรานประเทศเรารัฐบาลจึงไม่ขับไล่ออกไป “ดันนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่ผู้แทนราษฎร แต่เป็นผู้แทนหุ่นเชิดของ ทักษิณ ขายชาติ เราจึงต้องไล่มันออกไป”
นอกจากนี้รัฐบาลชุดดังกล่าวยังพยายามจะเข้าไปแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์โดยการแต่งตั้งคนของตัวเองเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงการเตรียมจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหวังเอาคนของตัวเองขึ้นดำรงตำแหน่งแทน นี่คือการวางแผนจะเข้าไปยึดตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ และจะเอาเงินไปถลุงเล่น จนมีแนวพระราชดำรัสเรื่อง ประเทศชาติจะล่มจนออกมา ระบบการยึดทั้งหลายนี้เองคือระบอบทักษิณ ระบอบเผด็จการทุนนิยม ที่ใช้เงินซื้อทุกอย่างเพื่อให้ได้มีอำนาจ และเมื่อมีอำนาจแล้วก็เข้ามาโกงกิน หรือที่เรียกว่า กินกันทั้งโครตแบบไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักอิ่ม
ทุกสิ่งนี้ทำให้ประเทศชาติเดือดร้อนไปทั่ว อย่างเช่นทุกวันนี้องค์การโทรศัพท์เกือบจะต้องล้มละลายเต็มที ถึงขนาดที่ต้องเอาที่ดิน 70 กว่าแปลงไปจำนองเพื่อเสียภาษี นั่นก็เพระเครือข่ายโทรศัพท์ของบริษัทเอไอเอส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษีเอง โดยผลักค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวมาให้องค์การโทรศัพท์ซึ่งเป็นของประชาชนทุกคน ต้องเป็นผู้จ่ายภาษีแทน กว่า 5 พันล้าน ซึ่งความหายนะแบบนี้จะเกิดขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไม่จบสิ้น หากเรายังไม่ทำลายระบอบทักษิณ ให้สิ้นซากไป
ดังนั้นเมื่อคนที่ชุมนุมอยู่ที่สะพานมัฆวาฬ หรือคนที่ชมเอเอสทีวีอยู่ทางบ้านทั่วทุกภาค เมื่อได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้ดีแล้ว การรู้อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนกับคนที่รักชาติแต่ปากแล้วไม่ทำอะไร แต่เราซึ่งเป็นเหล่าผู้กล้าต้องพาตัวออกมาร่วมกันด้วย เพราะการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ออกไป ก็เหมือนกับการทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อให้อำนาจประชาธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง และเพื่อให้ชื่อของเราได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาตร์ว่าเราทั้งหลายได้ทำตามเจตนารมณ์ปกป้องชาติ ตามแบบของลูกหลานชาวบางระจัน