"เอ็กโก" เตรียมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าต่างประเทศเป็น 30% จากเดิม 20% ของมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมด แย้มอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าประมูลรวม 3 โครงการ หวังสร้างฐานรายได้และกำไรให้โดดเด่น หลังคาดการณ์ครึ่งหลังปี 51 กำไรรูดต่ำกว่าครึ่งปีแรก อ้างโครงสร้างค่าไฟฟ้ออยู่ในช่วงขาลงและปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า ด้านผู้บริหาร ล่อแมงเม่า ชูปันผลสูงกว่าปีก่อนที่หุ้นละ 4.75 บาท อ้างกระแสเงินแข็งปั๋งแต่ละปีมี 4-5 พันล้านบาทเพียงพอจ่ายปันผลและลงทุน
นายศักดา ศรีสังคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2551 ว่า บริษัทคาดว่าจะมีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากครึ่งปีแรก 2551 ที่มีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 4,226 ล้านบาท เนื่องจากโครงสร้างค่าไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาลง
ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่มีโครงสร้างค่าไฟสูงสุดในปี 2550 และจะปรับลดลงมาเรื่อยๆ ตลอดอายุสัญญาขายไฟ บวกกับโรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าระยองมีรายได้ค่าไฟลดลง เพราะใกล้หมดอายุสัญญาจ่ายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงนโยบายบัญชีที่ไม่มีการเฉลี่ยค่าไฟในแต่ละปีเหมือนระบบบัญชีในต่างประเทศ ส่งผลให้กำไรฯเอ็กโกในครึ่งปีหลังนี้ไม่ดี
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังนี้ โรงไฟฟ้าระยอง โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จะมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก และส่งผลให้รายได้ลดลงไปอีกด้วย โดยครึ่งปีหลัง ค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าระยองและขนอมจะประมาณ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีกำไรลดลง แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่งอยู่ โดยแต่ละปีจะมีกระแสเงินสดประมาณ 4-5 พันล้านบาท และบริษัทฯยืนยันนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรงบการเงินรวม และจะจ่ายปันผลในอัตราที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยปี 2550 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมหุ้นละ 4.75 บาท ล่าสุดบอร์ดบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2.50 บาท สูงกว่าปีก่อนหุ้นละ 0.25 บาท
"อุตสาหกรรมไฟฟ้าต้องดูจากกระแสเงินสดเป็นสำคัญ ซึ่งบริษัทมี Cash Flow ที่แข็งแรง โดยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาส 2 นี้เป็นเพียงตัวเลขทางบัญชี ไม่กระทบกระแสเงินสด อย่างไรก็ตาม เราคงต้องหารือกับสมาคมบัญชีฯเ พื่อนำระบบการบันทึกบัญชีการเฉลี่ยค่าไฟมาใช้เหมือนในต่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากโครงสร้างค่าไฟด้วย"
นายศักดา กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าปีนี้บริษัทฯจะมีรายรับจากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ แต่รายได้ค่าไฟสูงสุดในปีที่ 3 ชดเชยส่วนที่หายไปจากบีแอลซีพีไม่ได้ และในปีหน้า โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ที่เอ็กโกถือหุ้นอยู่ 25% จะป้อนไฟฟ้าเข้าระบบ จะเป็นการสร้างฐานรายได้ของบริษัทมากกว่า ดังนั้นโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรกลับขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง จะมาจากการเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ๆ หรือประมูลโครงการโรงไฟฟ้า
ดังนั้น บริษัทจึงได้มีการปรับนโยบายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่จะลงทุน 20% เป็น 30% ของการลงทุนรวม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าประมูลโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ 3 โครงการ ซึ่งยังไม่สามารถแจ้งรายละเอียดได้
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนโครงการโรงไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ซึ่งจะเน้นการร่วมทุนกับผู้ที่ได้สัญญางานก่อสร้างแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 2-3 โครงการ หลังจากบริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น และบมจ.ปตท. เพื่อศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาด 45 เมกะวัตต์ ที่นิคมฯลาดกระบัง ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท โดยเอ็กโกจะถือหุ้น 35%
ส่วนโรงไฟฟ้าไอพีพีนั้น ขณะนี้บริษัทที่ชนะการประมูลไอพีพีมาชักชวนให้เข้าร่วมทุน ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าหากเข้าไปร่วมทุนจะผิดกฎระเบียบหรือไม่
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ว่าขนาดโครงการที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใดจึงจะคุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากพาร์ทเนอร์ คือ บริษัท วันเอ็นเนอจี้ฯ มีนโยบายที่จะลงทุนพลังงานหมุนเวียน ซึ่งบริษัทฯมีเงื่อนไขว่าหากต้องลงทุนในไทยจะต้องลงทุนผ่านเอ็กโก หรือถ้าไปลงทุนในต่างประเทศจะดึงเอ็กโกเข้าไปร่วมทุนด้วย
ส่วนโครงการแปรสภาพขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าขนาด 20-25 เมกะวัตต์ ได้ทำข้อตกลงกับเทศบาลภูเก็ตแล้ว โดยโครงการดังกล่าวต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำข้อเสนอโครงการยื่นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ ทำให้ต้องเลื่อนโครงการออกไป คาดว่าจะปลายปีนี้จะได้ข้อยุติ
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯยังศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าน้ำอู สปป.ลาว โครงการน้ำเทิน 1 อยู่ระหว่างการเจรจาขอปรับค่าไฟใหม่ เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 25-30% ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าเกาะกง ในกัมพูชา ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากถูกโยงเข้ากับความขัดแย้งของเขาพระวิหาร ทำให้เกิดความเสี่ยง แต่ทั้งนี้บริษัทฯก็ยังเดินหน้าเพื่อกำหนดอัตราค่าไฟใหม่ให้กับกฟ.พิจารณา
ด้านโรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าระยองที่จะหมดสัญญานั้น บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางเลือกว่าจะดำเนินการทางใดทั้ง 1 ขอต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. 2. ปรับปรุงโรงไฟฟ้าดีขึ้น แล้วทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติม และ3. ยกเลิกสัญญาแล้วยื่นขอใช้สิทธิประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพีรอบใหม่โดยใช้พื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม เนื่องจากเห็นว่าปี 2557-2559 ใกล้เคียงปีที่จะมีการเปิดประมูลไอพีพี ทั้งนี้ บริษัทฯจะต้องสรุปให้ได้ก่อนที่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะหมดลงก่อน 4 ปี คือในปี 2553
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4257 ล้านบาท ลดลง 754 ล้านบาท หรือลดลง 15%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 5,011 ล้านบาท เป็นผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจากกิจการร่วมค้าที่ลดลง 522 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ที่รายได้จากค่าไฟลดลงตามสูตรอัตราค่าไฟที่กำหนดไว้ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงด้วย
"ในปีที่แล้ว เอ็กโกรับรู้กำไรจากบีแอลซีพีมาก และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูง ทำให้กำไรในปี 2550 สูงมาก แต่ผลการดำเนินงานในปีนี้ ที่มีกำไรลดลงไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะโครงสร้างค่าไฟอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งแต่ละปีบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามา 4-5 พันล้านบาทเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลและลงทุนเพิ่มเติม" นายศักดา กล่าว
นายศักดา ศรีสังคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2551 ว่า บริษัทคาดว่าจะมีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากครึ่งปีแรก 2551 ที่มีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 4,226 ล้านบาท เนื่องจากโครงสร้างค่าไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาลง
ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่มีโครงสร้างค่าไฟสูงสุดในปี 2550 และจะปรับลดลงมาเรื่อยๆ ตลอดอายุสัญญาขายไฟ บวกกับโรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าระยองมีรายได้ค่าไฟลดลง เพราะใกล้หมดอายุสัญญาจ่ายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงนโยบายบัญชีที่ไม่มีการเฉลี่ยค่าไฟในแต่ละปีเหมือนระบบบัญชีในต่างประเทศ ส่งผลให้กำไรฯเอ็กโกในครึ่งปีหลังนี้ไม่ดี
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังนี้ โรงไฟฟ้าระยอง โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จะมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก และส่งผลให้รายได้ลดลงไปอีกด้วย โดยครึ่งปีหลัง ค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าระยองและขนอมจะประมาณ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีกำไรลดลง แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่งอยู่ โดยแต่ละปีจะมีกระแสเงินสดประมาณ 4-5 พันล้านบาท และบริษัทฯยืนยันนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรงบการเงินรวม และจะจ่ายปันผลในอัตราที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยปี 2550 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมหุ้นละ 4.75 บาท ล่าสุดบอร์ดบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2.50 บาท สูงกว่าปีก่อนหุ้นละ 0.25 บาท
"อุตสาหกรรมไฟฟ้าต้องดูจากกระแสเงินสดเป็นสำคัญ ซึ่งบริษัทมี Cash Flow ที่แข็งแรง โดยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาส 2 นี้เป็นเพียงตัวเลขทางบัญชี ไม่กระทบกระแสเงินสด อย่างไรก็ตาม เราคงต้องหารือกับสมาคมบัญชีฯเ พื่อนำระบบการบันทึกบัญชีการเฉลี่ยค่าไฟมาใช้เหมือนในต่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากโครงสร้างค่าไฟด้วย"
นายศักดา กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าปีนี้บริษัทฯจะมีรายรับจากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ แต่รายได้ค่าไฟสูงสุดในปีที่ 3 ชดเชยส่วนที่หายไปจากบีแอลซีพีไม่ได้ และในปีหน้า โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ที่เอ็กโกถือหุ้นอยู่ 25% จะป้อนไฟฟ้าเข้าระบบ จะเป็นการสร้างฐานรายได้ของบริษัทมากกว่า ดังนั้นโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรกลับขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง จะมาจากการเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ๆ หรือประมูลโครงการโรงไฟฟ้า
ดังนั้น บริษัทจึงได้มีการปรับนโยบายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่จะลงทุน 20% เป็น 30% ของการลงทุนรวม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าประมูลโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ 3 โครงการ ซึ่งยังไม่สามารถแจ้งรายละเอียดได้
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนโครงการโรงไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ซึ่งจะเน้นการร่วมทุนกับผู้ที่ได้สัญญางานก่อสร้างแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 2-3 โครงการ หลังจากบริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น และบมจ.ปตท. เพื่อศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาด 45 เมกะวัตต์ ที่นิคมฯลาดกระบัง ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท โดยเอ็กโกจะถือหุ้น 35%
ส่วนโรงไฟฟ้าไอพีพีนั้น ขณะนี้บริษัทที่ชนะการประมูลไอพีพีมาชักชวนให้เข้าร่วมทุน ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าหากเข้าไปร่วมทุนจะผิดกฎระเบียบหรือไม่
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ว่าขนาดโครงการที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใดจึงจะคุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากพาร์ทเนอร์ คือ บริษัท วันเอ็นเนอจี้ฯ มีนโยบายที่จะลงทุนพลังงานหมุนเวียน ซึ่งบริษัทฯมีเงื่อนไขว่าหากต้องลงทุนในไทยจะต้องลงทุนผ่านเอ็กโก หรือถ้าไปลงทุนในต่างประเทศจะดึงเอ็กโกเข้าไปร่วมทุนด้วย
ส่วนโครงการแปรสภาพขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าขนาด 20-25 เมกะวัตต์ ได้ทำข้อตกลงกับเทศบาลภูเก็ตแล้ว โดยโครงการดังกล่าวต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำข้อเสนอโครงการยื่นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ ทำให้ต้องเลื่อนโครงการออกไป คาดว่าจะปลายปีนี้จะได้ข้อยุติ
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯยังศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าน้ำอู สปป.ลาว โครงการน้ำเทิน 1 อยู่ระหว่างการเจรจาขอปรับค่าไฟใหม่ เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 25-30% ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าเกาะกง ในกัมพูชา ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากถูกโยงเข้ากับความขัดแย้งของเขาพระวิหาร ทำให้เกิดความเสี่ยง แต่ทั้งนี้บริษัทฯก็ยังเดินหน้าเพื่อกำหนดอัตราค่าไฟใหม่ให้กับกฟ.พิจารณา
ด้านโรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้าระยองที่จะหมดสัญญานั้น บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางเลือกว่าจะดำเนินการทางใดทั้ง 1 ขอต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. 2. ปรับปรุงโรงไฟฟ้าดีขึ้น แล้วทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติม และ3. ยกเลิกสัญญาแล้วยื่นขอใช้สิทธิประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพีรอบใหม่โดยใช้พื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม เนื่องจากเห็นว่าปี 2557-2559 ใกล้เคียงปีที่จะมีการเปิดประมูลไอพีพี ทั้งนี้ บริษัทฯจะต้องสรุปให้ได้ก่อนที่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะหมดลงก่อน 4 ปี คือในปี 2553
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4257 ล้านบาท ลดลง 754 ล้านบาท หรือลดลง 15%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 5,011 ล้านบาท เป็นผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจากกิจการร่วมค้าที่ลดลง 522 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ที่รายได้จากค่าไฟลดลงตามสูตรอัตราค่าไฟที่กำหนดไว้ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงด้วย
"ในปีที่แล้ว เอ็กโกรับรู้กำไรจากบีแอลซีพีมาก และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูง ทำให้กำไรในปี 2550 สูงมาก แต่ผลการดำเนินงานในปีนี้ ที่มีกำไรลดลงไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะโครงสร้างค่าไฟอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งแต่ละปีบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามา 4-5 พันล้านบาทเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลและลงทุนเพิ่มเติม" นายศักดา กล่าว