รมว.พาณิชย์ โต้ข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิวขายข้าวตันละ 2 บาท ยืนยัน รัฐบาลยังไม่ยกเลิกแนวคิดการขายข้าวแบบ G2G พร้อมเตรียมเปิดโอกาสให้โรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ กลับเข้าโครงการรับจำนำข้าวได้ ด้านนายกชาวนา ชี้ การปลดแบล็กลิสต์ 40 โรงสี ต้องดำเนินการอย่างรอบครอบ เพื่อไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น
วันนี้ (20 ส.ค.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่า หลังจากที่ตนเองเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ เป็นต้นมา รู้สึกเบาใจในการทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ เพราะผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการต่างช่วยกันทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยประเด็นสำคัญที่เป็นปัญหาหลักของกระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป็นเรื่องข้าว
ส่วนกระแสข่าวการยกเลิกการขายข้าวจากระบบ จีทูจี (รัฐบาลต่อรัฐบาล) มาเป็นการเปิดให้ภาคเอกชนขายข้าวได้เอง แต่ต้องจ่ายใต้โต๊ะให้กับกระทรวงพาณิชย์ตันละ 2 บาทนั้น นายไชยา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง รวมทั้งการเปิดโอกาสให้โรงสี 40-50 แห่ง ที่อยู่ในบัญชีดำกลับเข้าโครงการรับจำนำได้นั้น รัฐบาลจะต้องมีการพิจารณาถึงการกระทำผิดที่ผ่านมา และผ่อนปรนในการรับจำนำข้าวนาปีได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และโปร่งใสแก่เกษตรกร ตลอดจนถึงประชาชนโดยรวมมากที่สุด
สำหรับการแบ่งหน้าที่การทำงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ และ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ตนเองได้มีการมอบหมายให้แต่ละบุคคลทำหน้าที่ที่ตัวเองชอบและถนัดอย่างเต็มที่ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาและกรมการค้าภายในจะเป็นหน้าที่ของนายบรรยินดูแลทั้งหมดที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า เรื่องที่ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เตรียมจะปลดแบล็คลีสต์โรงสี จำนวน 40 แห่ง เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับข้าวนาปีที่จะออกมาเป็นจำนวนมากนั้น ควรจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีการทุจริตระหว่างรัฐกับโรงสี
ส่วนเรื่องที่จะมีการโยกงานรับจำนำข้าวของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรื่องนี้ นายประสิทธิ์ กล่วว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ทำงานได้ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวยืนยันว่า จะไม่ดึงงานรับจำนำของ ธ.ก.ส.มาดำเนินการ ส่วนเรื่องการเตรียมปลดแบล็กลิสต์โรงสี 40 แห่งนั้น จะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า