xs
xsm
sm
md
lg

PAP คาดปีนี้ฟันยอดขาย4 พันล้าน หวังท่อเหล็กใหญ่ทำเงินเต็มสูบปี52

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

PAP คาดปีนี้ฟันยอดขาย 4 พันล้าน เพิ่มจากปี 50 ถึง 15% เชื่อแม้ราคาเหล็กผันผวนแต่ไม่ลงแรง จนส่งผลให้ขาดทุนจากสต็อกเหล็ก ยันรักษาอัตรามาร์จิ้นให้อยู่ที่ระดับ 13-15% ส่วนท่อเหล็กขนาดใหญ่เข็นสู่ตลาดปี 52 รับโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ ทำงาน เผยครึ่งปีหลังมีปันผลเช่นเคย

นายสมชัย เลขะพจน์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) (PAP) เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่ายอดขายปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท สูงจากปีก่อนที่มียอดขาย 3 พันล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของราคาเหล็ก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 36 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับต้นปีที่อยู่ในระดับ 25 บาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อของผู้บริโภคอาจจะน้อยลงไปบ้าง เนื่องจากปัจจัยกดดันเรื่องราคาเหล็กผันผวน แต่ยังคาดว่าในช่วงไตรมาส 3นี้ ส่งผลให้ PAPจะทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ 1 พันล้านบาท ส่วนปีนี้บริษัทมี
อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่า 13-15% และเชื่อว่าทั้งปีจะรักษาระดับนี้ไว้ได้ แม้มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาเหล็กที่มีความผันผวนก็ตาม

"เราเชื่อว่าในครึ่งปีหลัง ราคาเหล็กอาจจะมีการปรับตัวลดลง หลังจากผู้บริโภคเริ่มกดดันและชะลอการซื้อเช่นเดียวกับสถานการณ์น้ำมัน แต่เชื่อว่าจะไม่มีการปรับลดลงอย่างรุนแรง จนส่งผลให้บริษัทขาดทุนจากการสต๊อกเหล็ก ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่ามีการเก็งกำไรราคาเหล็กบ้างตามภาวะตลาด แต่ทำด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น
แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว เงินเฟ้อจะสูงขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯภายใต้แบรนด์ของตัวเองค่อนข้างเน้นเรื่องของคุณภาพและพยายามทำการค้าแบบไม่หวือหวา เพื่อป้องกันความเสี่ยง " นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวถึงการขยายกำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มอีก 5 หมื่นตันในส่วนของท่อเหล็กขนาดใหญ่ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบการผลิต และคาดจะผลิตเชิงพาณิชย์ต้นปี 52 อันจะส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นบ้างแต่น่าจะควบคุมได้ โดยช่วงต้นปี 52 กำลังผลิตของบริษัทจะเพิ่มขึ้นที่ 3 แสนตันต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5 แสนตันต่อปี

" การผลิตท่อเหล็กขนาดใหญ่ เราเป็นเจ้าแรกที่ผลิตได้ เชื่อว่าจะสร้างยอดขายให้ในปี 52 อย่างชัดเจน โดยสัดส่วนรายได้ท่อใหญ่ประมาณ 50% และท่อขนาดอื่นรวมกันประมาณ 50% ซึ่งท่อขนาดใหญ่จะออกมารองรับกับงานเมกะโปรเจ็กต์ที่คาดว่าจะได้เริ่มเห็นปลายปีนี้ " นายสมขัย กล่าว

สำหรับ สถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกขณะนี้เชื่อว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่างรัฐบาลจีนที่ควบคุมโรงงานผลิตเหล็กส่วนใหญ่ในประเทศ และบริษัทเอกชนรายใหญ่อย่างอาร์เซลอร์คงจะไม่ปล่อยให้ราคาเหล็กปรับลดลงมาก เนื่องจากเป็นผู้ชี้นำราคาเหล็กในตลาดโลก และแม้ว่าจีนจะเสร็จสิ้นการก่อสร้างเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค แต่ก็ยังมีแผนก่อสร้างเพื่อรองรับการจัดงานเอ็กซ์ในให้เซี่ยงไฮ้ รวมถึงการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างเช่นโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดการชะลอตัวของความต้องการใช้เหล็กอย่างรุนแรงแน่นอน

นายสมชัย กล่าวว่า ครึ่งหลังของปีนี้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในระดับที่ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่จ่ายไป 0.12 บาทต่อหุ้น เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกกำไรสุทธิของบริษัทก็สูงกว่ากำไรทั้งปีของปี 50 ไปแล้ว และในครึ่งปีหลังก็ยังคาดว่ายังจะดีต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น