อหังการ์พงสะหวัน แบงก์เอกชนแห่งแรกของลาวประกาศรุกเปิดสาขาอย่างหนัก ภายใน 2 ปี ครอบคลุม 17 แขวง พร้อมหน่วยบริการย่อย 50 จุดทั่วประเทศ ลั่นสิ้นปีระดมเงินฝากไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญฯ ปล่อยกู้อย่างน้อย 20 ล้าน ก่อนแต่งตัวเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ลาวใน 2 ปี พร้อมขยายบริการเข้าไทย
ธนาคารพงสะหวัน เป็นธนาคารเอกชนแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่มีคนลาวเป็นเจ้าของ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่ถึง 2 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสถาบันการเงินในลาวค่อนข้างมากในด้านการแข่งขันการให้บริการ จากเดิมมีเฉพาะบริการธนาคารของรัฐและสำนักงานสาขาของธนาคารพาณิชย์จากไทย ปัจจุบันธนาคารพงสะหวัน มี 2 แห่ง คือสำนักงานใหญ่ในนครเวียงจันทน์ และสำนักงาน สาขาแขวงสะหวันเขต
นายอ๊อด พงสะหวัน ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารพงสะหวัน เปิดเผยว่า หลังเปิดให้บริการไม่ถึง 2 ปีแบงก์พงสะหวันได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้เป็นเพราะแผนการตลาดเชิงรุกที่ไม่รอให้ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการแต่ส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารออกไปพบปะกับลูกค้า ทั้งลูกค้ากลุ่มองค์กรและลูกค้ารายย่อยทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เป็นชาวลาว เดิมจะเก็บเงินออมไว้ที่บ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำต่างนำเงินออกมาฝากกับแบงก์พงสะหวันกันจำนวนมาก ถือเป็นการเปลี่ยนทัศนคติการออมเงินครั้งใหญ่ของชาวลาว
อย่างไรก็ตาม แผนยุทธศาสตร์ของแบงก์พงสะหวัน จะมุ่งให้บริการธุรกรรมการเงินตามพื้นที่เศรษฐกิจตามชายแดนที่ติดต่อกับไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยภายในสิ้นปีนี้คาบเกี่ยวถึงไตรมาสแรกของปี 2552 จะเปิดให้บริการอีก 4 สาขา คือเมืองปากเซแขวงจำปาสักตรงข้าม จ.อุบลราชธานี,เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ (อ.บึงกาฬ-หนองคาย),เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว (อ.เชียงของ-เชียงราย) และแขวงเวียงจันทน์ (จ.เลย)โดยสาขาปากเซได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปแล้ว
ทั้ง 4 แขวงข้างต้นถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจการค้าชายแดน การท่องเที่ยวสำคัญ แนวโน้มการขยายตัวธุรกิจการค้า การลงทุนมีอยู่สูงมาก มีโครงการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากชาวลาวและนักลงทุนจากต่างประเทศ หากแบงก์พงสะหวัน เปิดให้บริการ เชื่อว่าธุรกรรมการเงินทั้งเงินฝาก การโอนเงินหรือแม้แต่ด้านสินเชื่อจะต้องใช้บริการผ่านแบงก์พงสะหวัน
“เป้าหมายเฉพาะหน้าคือสิ้นปีนี้ แบงก์พงสะหวันเราจะต้องระดมเงินฝากให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 8หมื่นราย ตอนนี้เรามีลูกค้าในบัญชีแล้วประมาณ 5 หมื่นราย ขณะที่ยอดการปล่อยกู้ต้องทำตัวเลขให้ได้ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขเป้าหมายเหล่านี้ท้าท้ายมาก แต่เราก็มั่นใจว่าทำได้ แต่นั่นหมายความว่าสาขาตามแนวชายแดนที่วางไว้ต้องเปิดให้ได้ตามแผนงาน”กรรมการผู้อำนวยการใหญ่แบงก์พงสะหวันกล่าวและว่า
สำหรับเป้าหมายในอีก 2ปีข้างหน้าหรือ ปี 2510 ธนาคารพงสะหวันได้วางยุทธศาสตร์ปูรุกตลาดแบบปูพรมคือจะต้องเปิดสาขาให้ครบทั้ง 17 แขวง(จังหวัด)ทั่วประเทศ พร้อมกับตั้งหน่วยบริการกระจาย 50 จุดตามย่านธุรกิจของแขวงต่างๆ ควบคู่ไปกับการตั้งตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM)ให้ครบ 100 ตู้ ทั้งในนครเวียงจันทน์และต่างจังหวัด โดยในปีนี้บริษัทจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนให้ได้ถึง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่สำคัญในปี 2510 ธนาคารพงสะหวัน จะเป็นสถาบันการเงินที่เป็นธุรกิจโดยเอกชน 100 % แห่งแรกของสปป.ลาว ที่จะนำเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของลาว ที่จะเปิดให้บริการในปีเดียวกันนี้ หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วเชื่อว่าอัตราการาเติบโตของแบงก์พงสะหวันจะขยายตัวอีกมาก
ในส่วนของไทยเองแบงก์พงสะหวัน กำลังประสานความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อหาลู่ทางขยายการลงทุนมายังประเทศไทย โดยมีแผนที่จะเปิดสำนักงานสาขา ทั้งที่กรุงเทพฯ และตามแนวชายแดนไทย-ลาว เช่น มุกดาหาร หนองคาย เลย อุบลราชธานี โดยในเบื้องต้นแบงก์พงสะหวัน จะเปิดให้บริการในรูปแบบหน่วยบริการย่อย โดยเน้นให้บริการตั้งตู้เบิกเงินสดอัตโนมัติหรือ ATM ในอนาคตค่อยปรับพัฒนาเป็นสำนักงานสาขาเต็มรูปแบบ โดยจะเน้นให้ประชาชนลาวที่อาศัยอยู่ในไทยเป็นหลัก
ธนาคารพงสะหวัน เป็นธนาคารเอกชนแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่มีคนลาวเป็นเจ้าของ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่ถึง 2 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสถาบันการเงินในลาวค่อนข้างมากในด้านการแข่งขันการให้บริการ จากเดิมมีเฉพาะบริการธนาคารของรัฐและสำนักงานสาขาของธนาคารพาณิชย์จากไทย ปัจจุบันธนาคารพงสะหวัน มี 2 แห่ง คือสำนักงานใหญ่ในนครเวียงจันทน์ และสำนักงาน สาขาแขวงสะหวันเขต
นายอ๊อด พงสะหวัน ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารพงสะหวัน เปิดเผยว่า หลังเปิดให้บริการไม่ถึง 2 ปีแบงก์พงสะหวันได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้เป็นเพราะแผนการตลาดเชิงรุกที่ไม่รอให้ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการแต่ส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารออกไปพบปะกับลูกค้า ทั้งลูกค้ากลุ่มองค์กรและลูกค้ารายย่อยทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เป็นชาวลาว เดิมจะเก็บเงินออมไว้ที่บ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำต่างนำเงินออกมาฝากกับแบงก์พงสะหวันกันจำนวนมาก ถือเป็นการเปลี่ยนทัศนคติการออมเงินครั้งใหญ่ของชาวลาว
อย่างไรก็ตาม แผนยุทธศาสตร์ของแบงก์พงสะหวัน จะมุ่งให้บริการธุรกรรมการเงินตามพื้นที่เศรษฐกิจตามชายแดนที่ติดต่อกับไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยภายในสิ้นปีนี้คาบเกี่ยวถึงไตรมาสแรกของปี 2552 จะเปิดให้บริการอีก 4 สาขา คือเมืองปากเซแขวงจำปาสักตรงข้าม จ.อุบลราชธานี,เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ (อ.บึงกาฬ-หนองคาย),เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว (อ.เชียงของ-เชียงราย) และแขวงเวียงจันทน์ (จ.เลย)โดยสาขาปากเซได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปแล้ว
ทั้ง 4 แขวงข้างต้นถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจการค้าชายแดน การท่องเที่ยวสำคัญ แนวโน้มการขยายตัวธุรกิจการค้า การลงทุนมีอยู่สูงมาก มีโครงการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากชาวลาวและนักลงทุนจากต่างประเทศ หากแบงก์พงสะหวัน เปิดให้บริการ เชื่อว่าธุรกรรมการเงินทั้งเงินฝาก การโอนเงินหรือแม้แต่ด้านสินเชื่อจะต้องใช้บริการผ่านแบงก์พงสะหวัน
“เป้าหมายเฉพาะหน้าคือสิ้นปีนี้ แบงก์พงสะหวันเราจะต้องระดมเงินฝากให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 8หมื่นราย ตอนนี้เรามีลูกค้าในบัญชีแล้วประมาณ 5 หมื่นราย ขณะที่ยอดการปล่อยกู้ต้องทำตัวเลขให้ได้ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขเป้าหมายเหล่านี้ท้าท้ายมาก แต่เราก็มั่นใจว่าทำได้ แต่นั่นหมายความว่าสาขาตามแนวชายแดนที่วางไว้ต้องเปิดให้ได้ตามแผนงาน”กรรมการผู้อำนวยการใหญ่แบงก์พงสะหวันกล่าวและว่า
สำหรับเป้าหมายในอีก 2ปีข้างหน้าหรือ ปี 2510 ธนาคารพงสะหวันได้วางยุทธศาสตร์ปูรุกตลาดแบบปูพรมคือจะต้องเปิดสาขาให้ครบทั้ง 17 แขวง(จังหวัด)ทั่วประเทศ พร้อมกับตั้งหน่วยบริการกระจาย 50 จุดตามย่านธุรกิจของแขวงต่างๆ ควบคู่ไปกับการตั้งตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM)ให้ครบ 100 ตู้ ทั้งในนครเวียงจันทน์และต่างจังหวัด โดยในปีนี้บริษัทจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนให้ได้ถึง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่สำคัญในปี 2510 ธนาคารพงสะหวัน จะเป็นสถาบันการเงินที่เป็นธุรกิจโดยเอกชน 100 % แห่งแรกของสปป.ลาว ที่จะนำเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของลาว ที่จะเปิดให้บริการในปีเดียวกันนี้ หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วเชื่อว่าอัตราการาเติบโตของแบงก์พงสะหวันจะขยายตัวอีกมาก
ในส่วนของไทยเองแบงก์พงสะหวัน กำลังประสานความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อหาลู่ทางขยายการลงทุนมายังประเทศไทย โดยมีแผนที่จะเปิดสำนักงานสาขา ทั้งที่กรุงเทพฯ และตามแนวชายแดนไทย-ลาว เช่น มุกดาหาร หนองคาย เลย อุบลราชธานี โดยในเบื้องต้นแบงก์พงสะหวัน จะเปิดให้บริการในรูปแบบหน่วยบริการย่อย โดยเน้นให้บริการตั้งตู้เบิกเงินสดอัตโนมัติหรือ ATM ในอนาคตค่อยปรับพัฒนาเป็นสำนักงานสาขาเต็มรูปแบบ โดยจะเน้นให้ประชาชนลาวที่อาศัยอยู่ในไทยเป็นหลัก
