ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เปิดข้อตกลงเอกชนไทย-ลาว จับมือปั้นแผนเศรษฐกิจร่วม สนับสนุนตั้งศูนย์ด้านการขนส่งและลอจิสติกส์แบบครบวงจรที่แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว –พัฒนาสินค้าหัตถกรรม-ทรัพยากรมนุษย์- พัฒนาการลงทุนเน้นความเข้าใจกฎหมาย และเปิดช่องลงทุนตลาดไทยในทุกแขวงตอนเหนือ พร้อมจัดงานแสดงสินค้าแลกเปลี่ยนต่อเนื่องทุกปี เร่งสร้างกลไก Contract Farming ทุกแขวงชายแดนไทย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการประชุม แผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างหอการค้าไทยภาคเหนือ หรือ คสศ. กับสภาการค้าและอุตสาหกรรมลาว (7 แขวงตอนเหนือ ประกอบด้วย แขวงบ่อแก้ว หลวงน้ำทา, เวียงจันทน์,อุดมไชย, หลวงพระบาง,ไชยบุรี และพงสาลี) ณ ห้องประชุมแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยมี นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย และท่านคำพอ ไขคำพิทูน รองหัวหน้ากรมเศรษฐกิจ กระทรวงต่างประเทศ สปป.ลาว เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายลาว
ในส่วนของภาคเอกชนนำโดยนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (คสศ.) ขณะที่ฝ่ายเอกชนลาวนำโดยท่านขันทะวง ดาลาวง เลขาธิการสภาการค้า และอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว นอกจากนั้นยังมีผู้เข้าร่วมประชุมที่สำคัญได้แก่นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ นครเวียงจันทน์ กรมส่งเสริมการส่งออกเข้าร่วมด้วย โดยมีผู้เข้าร่วมฝ่ายไทย 45 คน และฝ่ายสปป.ลาว 20 คน
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (คสศ.) เปิดเผยว่า การจัดประชุมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกรมเจรจาทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใน 4 สาขาหลักคือการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และลอจิสติกส์ เนื่องจากศักยภาพของภาคเหนือของไทยและ สปป.ลาวสามารถร่วมลงทุนระหว่างกันเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจในอนาคต ภายหลังที่โครงข่ายคมนาคมก่อสร้างเสร็จสิ้น โดยเฉพาะเส้นทาง R3a และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงของ
โดยเฉพาะประเด็นการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) ในปี 2011 จะเป็นจุดเชื่อมเชียงราย -แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อการค้า การลงทุน – การท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังประเทศอื่น ๆ ในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียนได้
สำหรับแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างหอการค้าไทยภาคเหนือ หรือ คสศ. กับสภาการค้าและอุตสาหกรรมลาว (7 แขวงตอนเหนือ) ประกอบด้วย การขนส่งและลอจิสติกส์ , ด้านสินค้าหัตถอุตสาหกรรม OTOP ของไทย /OTOP ของสปป.ลาว,ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรด้านธุรกิจการค้า การท่องเที่ยว การขนส่ง-ลอจิสติกส์ และการศึกษา
ในส่วนของการขนส่งและลอจิสติกส์ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมกันสนับสนุน ให้มีการตั้งศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้า( DC) แบบครบวงจร ที่แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว
ด้านการพัฒนาการลงทุน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดมาตรฐาน กฎระเบียบ ด้านการลงทุนของแต่ละแขวง โดยฝ่ายไทยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจาก 4 แขวง ได้แก่ บ่อแก้ว หลวงน้ำทา อุดมไชย และหลวงพระบาง เพื่อมาให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการไทย ที่จังหวัดเชียงรายต่อไป
นอกจากนั้นยังจะได้ร่วมมือกันในการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างภาคเหนือของไทยกับแขวงตอนเหนือของ สปป.ลาว โดยจะหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพทุกปีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรมเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศของไทยจะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดงาน Road Show การลงทุนใน สปป.ลาว ณ กรุงเทพฯ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2551 นี้ด้วย
พร้อมกันนั้นยังมีข้อตกลงที่จะเสนอให้ สปป.ลาว ส่งเสริมการลงทุนตลาดไทย เนื่องจากทุกแขวงจะมีตลาดจีน และตลาดลาว จึงได้เสนอให้ สปป.ลาวอำนวยความสะดวกในการจัดหาพื้นที่และการจับคู่ธุรกิจ โดยฝ่ายไทยเสนอจะจัดทำแผนพัฒนาผู้ประกอบการลาวในตลาดไทยที่จะมีการลงทุนและจัดตั้งขึ้น
ส่วนด้านความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนและหารือของคณะผู้แทนระดับต่าง ๆ รวมทั้งนำเสนอต่อที่ประชุมภาครัฐในเวทีการประชุม “แผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยและกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว” ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส และในเวทีการประชุม “แผนความร่วมมือระหว่างพาณิชย์จังหวัดและหัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้าของแขวงในสปป.ลาว”
ขณะที่ด้านการส่งเสริมการเกษตร /Contract Farming ฝ่ายไทยได้แสดงความจริงใจในการส่งเสริม Contract Farming ในทุกแขวงชายแดนระหว่างไทย – สปป.ลาว โดยในการประชุมครั้งต่อไปเห็นพ้องให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับ แขวงบ่อแก้ว หลวงน้ำทา และอุดมไชย
สำหรับด้านการท่องเที่ยว ไทยยินดีให้การสนับสนุน สปป.ลาวเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในภาพรวมของแขวงต่าง ๆ ทางตอนเหนือของสปป.ลาว และการท่องเที่ยวบนเส้นทาง R3a โดยฝ่ายไทยจะร่วมศึกษาแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ จัดทำแผนส่งเสริมการตลาดร่วมไทย- สปป.ลาวทางตอนเหนือ เพื่อนำไปสู่การทำตลาดร่วมกัน
ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้จัดประชุมครั้งที่ 2 ภายในเดือนสิงหาคม 2551 ณ จังหวัดเชียงรายต่อไป
ด้านท้าวสุพอน ปันยาดา ประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองประเทศจะต้องเตรียมตัวรองรับการพัฒนาเส้นทางการค้าบนถนน R3a ซึ่งจะผ่านทางภาคเหนือของ สปป.ลาว และ ภาคเหนือของไทย ดังนั้น หากได้มีการเตรียมความพร้อมในลักษณะเครือข่าย โดยเป็นพันธมิตรหุ้นส่วนกันในธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็จะเป็นเรื่องที่จะเกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่ายซึ่งทางลาวพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่ภาครัฐและเอกชนของไทยเข้ามาร่วมลงทุน ทำการค้าร่วมกันในอนาคต