บสก.จับมือ รอแยลเฮ้าส์ สร้างบ้านในโครงการสร้างค้าง หวังระบายที่ดินเปล่าในพอร์ต เตรียมขน 3 โครงการเสนอขายในงานมหกรรมบ้านมือสอง ระบุต้นทุนบ้านใหม่พุ่ง-เงินเฟ้อเพิ่มปัจจัยหนุนบ้านมือสองขายดี แถมราคาต่ำกว่าบ้านใหม่ 20-30%
นาย บรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ บสก.เปิดเผยว่า ภายหลังที่บริษัทได้นำนโยบายปรับปรุงทรัพย์ก่อนขายพบว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก ลูกค้าให้ความสนใจซื้อจนแทบปรับปรุงทรัพย์ไม่ทัน อีกทั้งยังสามารถขายได้ในราคาดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ บสก.ได้มีแนวคิดนำโครงการที่ดินจัดสรร และโครงการที่อยู่อาศัยสร้างค้าง มาปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคและนำออกขาย ล่าสุดร่วมกับบริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด ในการรับสร้างบ้านให้แก่ลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการจัดสรรของบสก. โดยบสก.เตรียมนำ 3 โครงการ เข้าโครงการดังกล่าว ได้แก่ 1. โครงการภัทรนิเวศน์ที่ดินเปล่า จำนวน 20 แปลง ขนาดเริ่มต้น 50 ตารางวา มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ราคา 2.7 ล้านบาท,
2. โครงการ สินสุข การ์เด้นท์ ย่านบางนา-ตราด กม. 27 เป็นที่ดินเปล่าขนาด 28% จำนวน 80 แปลง ขนาดตั้งแต่ 80- 300 ตารางวา ปัจจุบันบสก.ได้ลงทุนปรับสาธารณูปโภคไปแล้ว 10 ล้านบาท เสนอขายที่ดินเปล่าในราคา ขายรวมบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 2 ล้านกว่าบาท 8,000-10,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งราคาดังกล่าวถือว่าถูกที่ดินในย่านเดียวกันที่ขายในราคา 13,000-14,000 บาท/ตร.ว. และ 3. โครงการ วโรชา เทพารักษ์ เป็นโครงการสร้างค้าง จำนวนหลายร้อยยูนิต มีทั้งบ้านสร้างเสร็จ บ้านระหว่างสร้าง และที่ดินเปล่า ซึ่งบสก.เตรียมนำเข้าโครงการดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นายบรรยง กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดบ้านมือสองมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น พิจารณาได้จากยอดขายของบสก. ในช่วง 7 เดือนแรก สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 7,600 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 11,700 ล้านบาท โดยเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ประชาชนหันมาซื้อบ้านมือสองเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจาก 1.ภาวะเงินเฟ้อ สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ประชาชนที่มีเงินออมหรือนักลงทุนหันมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์แทน
2. ราคาบ้านใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาค่าสร้างที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาบ้านใหม่เฉลี่ยปรับขึ้นมาเกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาบ้านใหม่แตกต่างจากราคาบ้านมือสองถือ 40% ในบ้านขนาดเดียวกันและและทำเลย่านเดียวกัน จึงเป็นแรงจูงใจสำคัญ ส่วนบ้านต้นทุนเดิมราคาจะสุงกว่าบ้านมือสองประมาณ 30%
นอกจากนี้ บสก. ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายถึง 90 ครั้งทั่วประเทศในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงการออกโปรโมชั่น ลดราคาทรัพย์ แจกของแถมต่างๆเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการยังได้ลดราคาลงมาอีก 5% จากโปรโมชั่นทั่วไปของบสก.
“ตอนนี้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงคอนโดฯขายดีมากจนแทบเอาอกมาขายไม่ทัน ซึ่งปัจจุบันคอนโดมีประมาณ 1,000 รายการ ส่วนทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวมีกว่า 1,000 รายการ และที่ขายดีมากอีกอย่างคือที่ดินเพื่อการเกษตร อาจเพราะช่วงนี้ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้นทำให้คนหันไปทำอาชีพการเกษตรมากขึ้น ส่วนในช่วงปลายปีบสก.เตรียมรับหนี้เสียจากธนาคารทหารไทย จำนวน 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเอ็นพีเอ 10,000 ล้านบาท และเอ็นพีแอล 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมรับซื้อพอร์ตหนี้เสียจากธนาคารกสิกรไทยเข้ามาอีก ส่วนจะจำนวนเท่าใดนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป” นายบรรยงกล่าว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้ คือสถานการณ์การเมืองที่รุนแรง อาจส่งผลให้ความชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ไม่กล้าใช้เงินจำนวนมากจนชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปได้
นาย วิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัทเรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด บริษัทตัวแทนหน้าและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นตาม ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหันมาซื้อบ้านมือสองมากขึ้นเนื่องจากมีราคาถูก เพราะช่วงที่ผ่านมาต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นถึง 25% ทำให้ราคาบ้านใหม่สูงกว่าบ้านมือสองตั้งแต่ 20-50%
อย่างไรก็ตามราคาบ้านมือสองในปีนี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 3-5% แต่ในปีหน้าคาดว่าราคาบ้านมือสองจะปรับขึ้นประมาณ 7-10% แต่ยังถือว่าต่ำกว่าบ้านใหม่มาก นอกจากนี้ในปีนี้ผู้ที่ซื้อบ้านมือสองยังได้รับส่วนลดจากมาตรการภาษีอีก 5% จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของตลาดบ้านมือสอง
นาย บรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ บสก.เปิดเผยว่า ภายหลังที่บริษัทได้นำนโยบายปรับปรุงทรัพย์ก่อนขายพบว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก ลูกค้าให้ความสนใจซื้อจนแทบปรับปรุงทรัพย์ไม่ทัน อีกทั้งยังสามารถขายได้ในราคาดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ บสก.ได้มีแนวคิดนำโครงการที่ดินจัดสรร และโครงการที่อยู่อาศัยสร้างค้าง มาปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคและนำออกขาย ล่าสุดร่วมกับบริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด ในการรับสร้างบ้านให้แก่ลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการจัดสรรของบสก. โดยบสก.เตรียมนำ 3 โครงการ เข้าโครงการดังกล่าว ได้แก่ 1. โครงการภัทรนิเวศน์ที่ดินเปล่า จำนวน 20 แปลง ขนาดเริ่มต้น 50 ตารางวา มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ราคา 2.7 ล้านบาท,
2. โครงการ สินสุข การ์เด้นท์ ย่านบางนา-ตราด กม. 27 เป็นที่ดินเปล่าขนาด 28% จำนวน 80 แปลง ขนาดตั้งแต่ 80- 300 ตารางวา ปัจจุบันบสก.ได้ลงทุนปรับสาธารณูปโภคไปแล้ว 10 ล้านบาท เสนอขายที่ดินเปล่าในราคา ขายรวมบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 2 ล้านกว่าบาท 8,000-10,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งราคาดังกล่าวถือว่าถูกที่ดินในย่านเดียวกันที่ขายในราคา 13,000-14,000 บาท/ตร.ว. และ 3. โครงการ วโรชา เทพารักษ์ เป็นโครงการสร้างค้าง จำนวนหลายร้อยยูนิต มีทั้งบ้านสร้างเสร็จ บ้านระหว่างสร้าง และที่ดินเปล่า ซึ่งบสก.เตรียมนำเข้าโครงการดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นายบรรยง กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดบ้านมือสองมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น พิจารณาได้จากยอดขายของบสก. ในช่วง 7 เดือนแรก สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 7,600 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 11,700 ล้านบาท โดยเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ประชาชนหันมาซื้อบ้านมือสองเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจาก 1.ภาวะเงินเฟ้อ สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ประชาชนที่มีเงินออมหรือนักลงทุนหันมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์แทน
2. ราคาบ้านใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาค่าสร้างที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาบ้านใหม่เฉลี่ยปรับขึ้นมาเกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาบ้านใหม่แตกต่างจากราคาบ้านมือสองถือ 40% ในบ้านขนาดเดียวกันและและทำเลย่านเดียวกัน จึงเป็นแรงจูงใจสำคัญ ส่วนบ้านต้นทุนเดิมราคาจะสุงกว่าบ้านมือสองประมาณ 30%
นอกจากนี้ บสก. ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายถึง 90 ครั้งทั่วประเทศในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงการออกโปรโมชั่น ลดราคาทรัพย์ แจกของแถมต่างๆเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการยังได้ลดราคาลงมาอีก 5% จากโปรโมชั่นทั่วไปของบสก.
“ตอนนี้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงคอนโดฯขายดีมากจนแทบเอาอกมาขายไม่ทัน ซึ่งปัจจุบันคอนโดมีประมาณ 1,000 รายการ ส่วนทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวมีกว่า 1,000 รายการ และที่ขายดีมากอีกอย่างคือที่ดินเพื่อการเกษตร อาจเพราะช่วงนี้ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้นทำให้คนหันไปทำอาชีพการเกษตรมากขึ้น ส่วนในช่วงปลายปีบสก.เตรียมรับหนี้เสียจากธนาคารทหารไทย จำนวน 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเอ็นพีเอ 10,000 ล้านบาท และเอ็นพีแอล 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมรับซื้อพอร์ตหนี้เสียจากธนาคารกสิกรไทยเข้ามาอีก ส่วนจะจำนวนเท่าใดนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป” นายบรรยงกล่าว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในขณะนี้ คือสถานการณ์การเมืองที่รุนแรง อาจส่งผลให้ความชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ไม่กล้าใช้เงินจำนวนมากจนชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปได้
นาย วิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัทเรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด บริษัทตัวแทนหน้าและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นตาม ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหันมาซื้อบ้านมือสองมากขึ้นเนื่องจากมีราคาถูก เพราะช่วงที่ผ่านมาต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นถึง 25% ทำให้ราคาบ้านใหม่สูงกว่าบ้านมือสองตั้งแต่ 20-50%
อย่างไรก็ตามราคาบ้านมือสองในปีนี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 3-5% แต่ในปีหน้าคาดว่าราคาบ้านมือสองจะปรับขึ้นประมาณ 7-10% แต่ยังถือว่าต่ำกว่าบ้านใหม่มาก นอกจากนี้ในปีนี้ผู้ที่ซื้อบ้านมือสองยังได้รับส่วนลดจากมาตรการภาษีอีก 5% จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของตลาดบ้านมือสอง