ผู้จัดการรายวัน – บิ๊กธอส. ไม่หวั่นสภาพคล่องขาดมือ เผยยอดฝากเงินงานมหกรรม 55 ปีธอส. ทะลุ 10,000 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องในปัจจุบันที่มีกว่า 40,000 ล้านบาท เผยในงานมหกรรมฯปล่อยสินเชื่อได้สูง 8,800 ล้านบาท จากเป้าเพียง 5,000 ล้านบาท ยอมรับวิกฤตเลห์แมนฯ ทำตลาดปิด ต้องชะลอระดมทุนผ่านการทำซีเคียวริไทเซชันจำนวน 40,000 ล้านบาท ต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จากปัญหาการขาดสภาพคล่องของวาณิชธนกิจจนถึงขั้นล้มละลายในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สถาบันการเงินในประเทศไทยมีความระมัดระวัง และเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารของไทยต้องการขอสินเชื่อจากต่างประเทศจะทำได้ยากและมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ภาวะดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องในตลาดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไทยยังคงมีสภาพคล่องคงเหลือในตลาดจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของธอส. ขณะนี้มีสภาพคล่องคงเหลือประมาณ 40,000 ล้านบาท เพียงพอต่อการปล่อยสินเชื่อของธอส. นอกจากนี้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้การขอสินเชื่อของปีนี้ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มาที่ปล่อยสินเชื่อต่อปีกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 80,000 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ผลของการจัดงานมหกรรมบ้าน 55 ปี ธอส.และมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ยังมียอดจองฝากเงินประจำมากกว่า 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.25% ในส่วนนี้ธอส.ยังสามารถนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้อีกด้วย อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าการระดมเงินจากต่างประเทศ ที่จะมีต้นทุนแลกเปลี่ยนเงินกู้เป็นเงินบาท(สว็อป)อีกด้วย
ส่วนยอดการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานจำนวน 8,800 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 5,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งยอดจองฝากเงินและยอดขอสินเชื่อดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าสภาพคล่องในตลาดยังมีอยู่สูงมาก รวมไปถึงประชาชนยังมีความต้องการและมีกำลังซื้อบ้านสูง แม้ว่าภาวะปัจจัยลบจะยังคงมีอยู่ก็ตาม
" การที่ประชาชนยังจองกู้ซื้อบ้านสูงมาก แสดงว่าปัจจัยลบไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของประชาชนมากนัก หากอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นที่น่าสนใจ ลูกค้าก็รีบซื้อ อีกทั้ง ยังเชื่อว่าต้นทุนบ้านในปีหน้าจะปรับขึ้นสูงมาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาบ้านขึ้นตามทำให้ประชาชนรีบซื้อบ้านในปีนี้”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนหนี้ที่ไมก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารได้ปรับเพิ่มจาก 6% เป็น 11% หรือปรับเพิ่มขึ้นมา 5% หลังปรับเปลี่ยนระบบการบันทึกบัญชีใหม่ตามมาตรฐานของธปท. หรือ ไอเอเอส 39 และลูกค้าผิดชำระหนี้จากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหามาก เนื่องจากบ้านเป็นสิ่งจำเป็น คนจะไม่ปล่อยให้ เป็นเอ็นพีแอล
นายขรรค์ กล่าวต่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทางธอส. สามารถระดมเงินฝากได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทเป็นผลมาจาก อัตราดอกเบี้ยในประเทศจะอยู่ในภาวะทรงตัวหลังจากที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) และทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท. ) ออกมาส่งสัญญาณ การไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการที่ธอส. มีทางกระทรวงการคลัง และรัฐบาลค้ำประกัน 100 % ไม่มีผลกระทบกับการ พ.ร.บ. ประกันเงินฝากแต่อย่างใด
ล่าสุด ธอส.ได้ร่วมกับเทสโก้ โลตัส ในการให้บริการลูกค้าสินเชื่อของธอส. ในการชำระสินเชื่อได้ที่เค้าเตอร์รับชำระเงิน ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าของธอส.ได้รับความสะดวกสบายในการชำระสินชื่อโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา ซึ่งคิค่าบริการเพียง 5 บาทเท่านั้น จากปกติค่าบริการ 10 บาท ปัจจุบันเทสโก้ โลตัส มีอยู่กว่า 450 สาขาทั่วประเทศ
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จากปัญหาการขาดสภาพคล่องของวาณิชธนกิจจนถึงขั้นล้มละลายในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สถาบันการเงินในประเทศไทยมีความระมัดระวัง และเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารของไทยต้องการขอสินเชื่อจากต่างประเทศจะทำได้ยากและมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ภาวะดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องในตลาดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไทยยังคงมีสภาพคล่องคงเหลือในตลาดจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของธอส. ขณะนี้มีสภาพคล่องคงเหลือประมาณ 40,000 ล้านบาท เพียงพอต่อการปล่อยสินเชื่อของธอส. นอกจากนี้สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้การขอสินเชื่อของปีนี้ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มาที่ปล่อยสินเชื่อต่อปีกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 80,000 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ผลของการจัดงานมหกรรมบ้าน 55 ปี ธอส.และมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ยังมียอดจองฝากเงินประจำมากกว่า 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.25% ในส่วนนี้ธอส.ยังสามารถนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้อีกด้วย อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าการระดมเงินจากต่างประเทศ ที่จะมีต้นทุนแลกเปลี่ยนเงินกู้เป็นเงินบาท(สว็อป)อีกด้วย
ส่วนยอดการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานจำนวน 8,800 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 5,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งยอดจองฝากเงินและยอดขอสินเชื่อดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าสภาพคล่องในตลาดยังมีอยู่สูงมาก รวมไปถึงประชาชนยังมีความต้องการและมีกำลังซื้อบ้านสูง แม้ว่าภาวะปัจจัยลบจะยังคงมีอยู่ก็ตาม
" การที่ประชาชนยังจองกู้ซื้อบ้านสูงมาก แสดงว่าปัจจัยลบไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของประชาชนมากนัก หากอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นที่น่าสนใจ ลูกค้าก็รีบซื้อ อีกทั้ง ยังเชื่อว่าต้นทุนบ้านในปีหน้าจะปรับขึ้นสูงมาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาบ้านขึ้นตามทำให้ประชาชนรีบซื้อบ้านในปีนี้”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนหนี้ที่ไมก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารได้ปรับเพิ่มจาก 6% เป็น 11% หรือปรับเพิ่มขึ้นมา 5% หลังปรับเปลี่ยนระบบการบันทึกบัญชีใหม่ตามมาตรฐานของธปท. หรือ ไอเอเอส 39 และลูกค้าผิดชำระหนี้จากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหามาก เนื่องจากบ้านเป็นสิ่งจำเป็น คนจะไม่ปล่อยให้ เป็นเอ็นพีแอล
นายขรรค์ กล่าวต่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทางธอส. สามารถระดมเงินฝากได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทเป็นผลมาจาก อัตราดอกเบี้ยในประเทศจะอยู่ในภาวะทรงตัวหลังจากที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) และทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท. ) ออกมาส่งสัญญาณ การไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการที่ธอส. มีทางกระทรวงการคลัง และรัฐบาลค้ำประกัน 100 % ไม่มีผลกระทบกับการ พ.ร.บ. ประกันเงินฝากแต่อย่างใด
ล่าสุด ธอส.ได้ร่วมกับเทสโก้ โลตัส ในการให้บริการลูกค้าสินเชื่อของธอส. ในการชำระสินเชื่อได้ที่เค้าเตอร์รับชำระเงิน ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าของธอส.ได้รับความสะดวกสบายในการชำระสินชื่อโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา ซึ่งคิค่าบริการเพียง 5 บาทเท่านั้น จากปกติค่าบริการ 10 บาท ปัจจุบันเทสโก้ โลตัส มีอยู่กว่า 450 สาขาทั่วประเทศ
