xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เปิดทางขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่ เอกชนหวั่นอำนาจซ้ำซ้อน-เลือกปฏิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครม.ไฟเขียวกฎหมาย 4 ฉบับที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้ราคาสุรา-ยาสูบ สะท้อนความเป็นจริงและรัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้ถูกต้องมากขึ้น เพิ่มเพดานอัตราภาษี-ค่าธรรมเนียมเหล้า-บุหรี่ รอบใหม่ สร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการในเขตปลอดภาษีและให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ภาคเอกชนหวั่นขาดความโปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดฐานภาษี เกิดการซ้ำซ้อน ระหว่างกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร และเปิดโอกาสให้มีการใช้อำนาจเพื่อเลือกปฏิบัติ

นส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) สุรา ร่างพ.ร.บ.ยาสูบ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต และร่างพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต รวม 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาซึ่งจะนำส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอให้ประธานผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ทางกระทรวงการคลังได้นำเสนอหลักการเหล่านี้มาเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยสุรา ยาสูบ ภาษีสรรพสามิต และพิกัดภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ราคาสินค้าสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้นทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง โดยสาระสำคัญของกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ คือ ให้เพิ่มนิยาม ราคาขาย ณ โรงสุรา ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ และราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การประกาศมูลค่าสุรา มูลค่ายาเส้นหรือยาสูบ และมูลค่าสินค้า เพื่อใช้คำนวณภาษีสรรพสามิต รวมทั้งปรับปรุงอัตราภาษีสุรา อัตราค่าแสตมป์ยาสูบ และค่าธรรมเนียมท้ายกฎหมายสุรา และกฎหมายยาสูบ ที่สำคัญยังให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วยไพ่และกำหนดให้ไพ่เป็นสินค้าในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต รวมถึงกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีตามปริมาณ สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติมจากเดิมที่มีเฉพาะมูลค่าที่กำหนดไว้ 30%

นส.ศุภรัตน์ กล่าวว่า กรมสรรพสามิตรายงานว่า เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแก้ไขกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยไพ่นั้นล้าสมัยมาก รวมทั้งบทบัญญัติเกี่ยวกับฐานคำนวณภาษีในปัจจุบันขาดความชัดเจน เกิดช่องทางให้หลีกเลี่ยงภาษีโดยแจ้งราคาไม่เป็นไปตามกลไกตลาด ที่สำคัญอำนาจในการประกาศมูลค่าสินค้าเพื่อถือเป็นเกณฑ์คำนวณภาษีไม่สอดคล้องกับธุรกิจในปัจจุบัน รวมทั้งการจัดเก็บภาษีที่ผลิตในเขตปลอดภาษีนั้นไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ และเพดานภาษียาสูบและสุรา ในปัจจุบันได้ใช้มานานและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ จึงควรปรับเพิ่มเพดานอัตราภาษีและค่าธรรมเนียมใหม่ ทั้งหมด

รายงานข่าวแจ้งว่า ร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวาระแรก สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเพดานภาษีใหม่ของภาษีแบ่งได้เป็น กลุ่มสุราแช่ (เบียร์และไวน์) คิดภาษีสรรพสามิตจากเดิมคิดตามมูลค่า 60% หรือ 100 บาทต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ปรับใหม่เป็น 90% หรือตามปริมาณ 1 พันบาทต่อลิตรแอลกอฮอลล์

ส่วนสุรากลั่น หรือสุราขาวและสุราผสม จากปัจจุบันที่คิดตามมูลค่า 50% หรือ 400 บาทต่อปริมาณ 1 ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ปรับใหม่เป็น 90% หรือตามปริมาณ 1 พันบาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ขณะที่ภาษี ยาสูบ ปัจจุบันเก็บ 80% ก็ขยายเพดานไปเป็น 90% และยังปรับขึ้นบัญชีค่าธรรมเนียม และค่าแสตมป์ยาสูบ คือ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำโรงงานสุราโรงหนึ่งจากฉบับละ 5,000 บาทเป็น 15,000 บาท ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 1 จาก 10,000บาทเพิ่มเป็น 15,000 บาท เป็นต้น

ด้านแหล่งข่าวจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า คณะทำงานด้านภาษี ของสภาหอฯ อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียด ผลกระทบทั้งหมดที่ได้รับจากการปรับกฎหมายสรรพสามิต คาดว่าภายในเร็ว ๆ นี้จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพราะทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตและนำเข้าสินค้าที่รัฐจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทั้งหมด ขาดความแน่นอนในการดำเนินธุรกิจ และการวางแผนการตลาดของผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการไม่สามารถคาดการณ์ และพยากรณ์ได้ว่าสินค้าที่ผลิตหรือนำเข้านั้น ต้องมีภาระภาษีสรรพสามิตเท่าใด ที่สำคัญยังขาดความโปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดฐานภาษี เกิดการซ้ำซ้อน ระหว่างกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร และเปิดโอกาสให้มีการใช้อำนาจเพื่อเลือกปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น