xs
xsm
sm
md
lg

GLOBAL เทรดตามแผนใน Q3 นี้ เมินตลาดหุ้นซบ ชี้ นักลงทุนสนอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สยามโกลบอลเฮ้าส์ ไม่สนภาวะตลาดหุ้นซบ เดินหน้าเข้าจดทะเบียน เหตุนักลงทุนสนใจจองซื้อจำนวนมาก หวั่นหุ้นขาดสภาพคล่อง ด้านที่ปรึกษาฯเตรียมหารือกระจายหุ้นสัปดาห์นี้ ผู้บริหาร เผย นักลงทุนอินโดนีเซีย สนใจร่วมทุน แต่ขอเข้าซื้อขายใน ตลท.ก่อน คาด ส.ค.หรือ ก.ย.นี้

นายวิฑูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) GLOBAL เปิดเผยถึงแผนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทไม่กังวลกับภาวะตลาดหุ้นที่มีการปรับตัวลดลงและบริษัทมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนแล้ว ขณะนี้บริษัทรอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติให้กระจายหุ้น ซึ่งคาดว่า จะเข้าระดมทุนได้ประมาณเดือน สิงหาคม หรือกันยายนนี้

ทั้งนี้ ผลการที่บริษัทได้พบกับลูกค้าของบริษัท (ซัปพลายเออร์) ในช่วงที่ผ่านมานั้น มีลูกค้าของบริษัทสนใจที่จะจองซื้อหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความกังวลว่าหุ้นของบริษัทจะไม่มีสภาพคล่องเมื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เพราะลูกค้าจะถือหุ้นในระยะยาว

สำหรับสัปดาห์นี้ ที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นจะกำหนดสัดส่วนการเสนอขายหุ้นว่าจะจัดสรรแก่นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบันอย่างไร เพราะบริษัทจะเสนอขายหุ้น 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท

นายวิฑูร กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีนักลงทุนจากประเทศอินโดนีเซีย สนใจที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจและจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อที่จะเปิดสาขาของบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทสนใจที่จะร่วมทุนกับนักลงทุนดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สรุปที่จะมีการเปิดสาขา เพราะต้องการที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก่อน

“เรื่องการกำหนดราคาหุ้นเราไม่ได้ห่วง เพราะผมมีที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณภาพดูแลให้ แต่ตอนนี้เป็นห่วงจำนวนหุ้นที่จะกระจายจะไม่พอกับความต้องการที่มีจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ส่วนตัวก็พยายาม บริหารให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนสภาพเศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจจะกระทบกับเราบ้างแต่เราไม่ได้กังวลมาก เพราะจุดแข็งของบริษัทเรา คือ มีความกว้างของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งเรายังมีสาขาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก” นายวิฑูร กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาแห่งที่ 7 ที่นครปฐม 27 กันยายน นี้ ซึ่งปกติเมื่อบริษัทเปิดสาขาใหม่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท โดยใช้เงินจากการระดมทุนขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งอนาคตจะขยายในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เพราะ สามารถปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้ปรับขึ้นราคาสินค้าบางประเภทขึ้น 10% จากต้นปีที่ผ่านมา

สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่จะเพิ่มขึ้น 25% หรือประมาณ 4,500-4,600 ล้านบาท จากปี 2550 ที่มีรายได้ 3,200 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากยอดขายสาขาเดิมที่ขยายตัว และสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น