xs
xsm
sm
md
lg

โกลบอลเฮ้าส์ จัดโรดโชว์แนะนำหุ้นนักลงทุนชลบุรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิทูร สุริยวนากุล (ที่ 2จากขวา) และนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมชี้แจงรายละเอียดของหลักทรัพย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์ข่าวศรีราชา - สยามโกลบอลเฮ้าส์ เดินสายโรดโชว์เสนอขายหุ้นจำนวน 260 ล้านหุ้น สำหรับขยายการลงทุนในปี 2552-2553 ให้แก่นักลงทุนในจังหวัดชลบุรี หลังกำหนดแผนจัดโรดโชว์หัวเมืองใหญ่ 11 จังหวัดทั่วประเทศ โดยหลังเปิดขายในไตรมาสที่ 3 ของปีจะสามารถระดมทุนจากนักลงทุนต่างจังหวัดได้ไม่น้อยกว่า 3 พันราย ด้วยเม็ดเงินเฉียดพันล้าน

วันนี้ (7 ก.ค.) บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ได้จัดให้มีการเสนอข้อมูลรายละเอียดด้านหลักทรัพย์ของบริษัทแก่นักลงทุนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีแผนจัดโรดโชว์หลักทรัพย์ของบริษัทให้แก่นักลงทุนในพื้นที่ 11 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม -21 กรกฎาคม 2551 และที่ผ่านมา ได้จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระยอง เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด ภูเก็ต และจังหวัดที่ 6 ที่โรงแรมรัตนะ จังหวัดชลบุรี และยังกำหนดจัดโรดโชว์ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหาดใหญ่ เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 260 ล้านหุ้น โดยแต่งตั้ง บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบันโกลบอลเฮ้าส์ มีสาขาทั้งสิ้น 6 สาขา คือ สาขาร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ระยอง และล่าสุด เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา คือ สาขาจังหวัดชลบุรี โดยแต่ละสาขามีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 18,000-26,000 ตารางเมตร และปลายปีนี้จะเปิดสาขาที่ 7 ในจังหวัดนครปฐม โดยมีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศปีละ 2 สาขา ทั้งนี้ ในปี 2550 บริษัทมีรายได้ 3.25 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนประมาณ 21% และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราเติบโตทางธุรกิจประมาณ 20%

ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับธุรกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น จากเศรษฐกิจของประเทศที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มทุนจดทะเบียนและระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และส่วนหนึ่งยังใช้ในการก่อสร้าง รวมทั้งการจัดซื้อที่ดินในต่างจังหวัด

“โกลบอลเฮ้าส์ คือ ศูนย์รวมจำหน่ายสินค้าจำเป็น ซึ่งประชาชนในทุกจังหวัดต้องใช้ โดยการดำเนินงานของเราเหมือนกับการรวบรวมร้านโชวห่วยที่จำหน่ายวัสดุที่เกี่ยวกับบ้านมาไว้ภายในอาคารเดียวกัน แต่ละปีเรามีการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 25% โดยหุ้นเพิ่มทุนที่จะเปิดขายให้แก่ประชาชนเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งในแง่การพาณิชย์แล้วสินค้าที่เกี่ยวกับบ้านและการตกแต่ง เป็นสินค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมพื้นฐานที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ” นายวิทูร กล่าว

ขณะที่นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM กล่าวว่าบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จะเพิ่มทุนจาก 700 ล้านบาท เป็น 960 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นจำนวน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่า จะสามารถเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้

“การระดมทุนในครั้งนี้คาดว่าน่าจะใกล้เคียง 1 พันล้านบาท โดยเราตั้งเป้าว่าจะสามารถกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนในต่างจังหวัดได้ประมาณ 2,500-3,000 ราย ซึ่งการกระจายหุ้นในครั้งนี้ไม่จำกัดจำนวนการถือหุ้นของนักลงทุน และคาดว่า ในเดือนหน้าน่าจะกำหนดราคา IPO ได้ นอกจากนั้นในเร็วๆ นี้เรายังจะจัดให้มีการแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์ที่จะเป็นแหล่งจัดสรรหุ้นจองให้แก่นักลงทุนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 5 บริษัทหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง บัวหลวง สินเอเซีย พัฒนะสินและบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย”

นายสมภพ ยังเผยถึงผลประกอบการในแต่ละสาขาของโกลบอลเฮ้าส์ ว่า ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละสาขามียอดจำหน่ายประมาณ 800 ล้านบาท และในเป้าหมายของบริษัทยังมีแนวโน้มการขยายสาขาในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีอัตรากำไรสุทธิ 6% ของยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดและคาดว่าในไม่นานนี้บริษัทจะมียอดจำหน่ายแตะ 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับจุดแข็งของสยามโกลบอลเฮ้าส์ อยู่ที่ 1.โลเกชัน ซึ่งหมายถึงที่ดินที่มีอยู่ในครอบครอง 2.บัญชีลูกหนี้ที่มีความชัดเจน 3.สินค้าคงคลัง ที่ในแต่ละปีจะเหลือไม่มากเนื่องจากการกระจายสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว 4.อัตราแลกเปลี่ยน ที่ปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ จะทำในลักษณะประกันความเสี่ยงล่วงหน้า และ 5.อัตราดอกเบี้ย
กำลังโหลดความคิดเห็น