บล.ซีมิโก้ ชี้ มาร์เกตแชร์เฉลี่ยปีนี้ถึงเป้าหมายลำบาก 5% เหตุภาวะไม่เอื้อ หวังไตรมาส4 ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นดันมาร์เกตแชร์เพิ่ม ยันไม่มีปัญหาปล่อยมาร์จิ้น เผยขณะนี้เจรจาโบรกเกอร์เวียดนาม 3 ราย เป็นพันธมิตรร่วมทุน คาดสรุปไตรมาส3/51นี้ รับตลาดหุ้นทรุดฉุดไอพีโอเในมือ 3-5 บริษัท เข้าจดทะเบียนไม่ทันปีนี้
นายเชาว์ อรัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO เปิดเผยว่า ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์) เฉลี่ยทั้งปีนี้คงจะไม่ถึง 5% จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 4.2% เนื่องจาก ภาวะตลาดไม่เอื้อจากได้รับปัจจัยลบจากต่างประเทศและปัจจัยทางการเมืองกดดันในช่วงไตรมาส3/51นี้ แต่เชื่อว่าไตรมาส4/51ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นน่าปรับตัวดีขึ้น จากราคาน้ำมันที่น่าจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ดี หากในช่วงไตรมาส4/51 มาร์เกตแชร์ของปรับตัวขึ้นได้ที่ระดับ 5% ถือว่าอยู่ระดับที่ดี
ทั้งนี้การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน)นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น และไม่ต้องตั้งสำรองเพราะลูกค้าไม่ได้มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว เพราะบริษัทเลือกปล่อยมาร์จิ้นให้กับลูกค้าที่ดี ซึ่งในช่วงเดือนเม.ย. - พ.ค. ปล่อยวงเงินมาร์จิ้น 2,000 ล้านบาท และปัจจุบันมีจำนวนปล่อยวงเงินมาร์จิ้นอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท โดยบริษัทคาดรายได้ปีนี้น่าจะโตกว่าปี 50 ที่มีรายได้ 849 ล้านบาท
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ ZMICO เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับโบรกเกอร์เวียดนาม 3 ราย เพื่อเข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยเป็ลักษณะการร่วมทุน ซึ่งจะถือหุ้นในสัดส่วน 40-50%คาดว่าจะสรุปได้ไตรมาส3 ปีนี้
ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุนในเวียดนามน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปลงทุนจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงไปคอ่นข้างแรงกว่า 60% แต่พื้นฐานโดยรวมยังดีอยู่ ขณะที่เดียวกันราคาหุ้นในระดับนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ซึ่งการที่บริษัทหันไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มไม่ค่อยดี ซึ่งบริษัทฯมีศักยภาพและความพร้อมที่จะออกไปต่างประเทศ และยังเป็นการกระจายรายได้ไม่ให้กระจุกเพียงแต่ในประเทศ
นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการผู้จัดการด้านบริษัทหลักทรัพย์ ZMICO เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 3-5 ดีล มูลค่ารวมประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยคาดว่าไอพีโอดังกล่าว อาจจะไม่ได้เข้าจดทะเบียนไม่ทันปีนี้เพราะ ภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย ส่วนงานด้านที่ปรึกษาควบรวมกิจการ(M&A) ปัจจุบันบริษัทฯมีดีล 8-10 ดีล มูลค่าทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท คาดจะเห็นปีนี้ 1-2 ดีล โดยแบ่งเป็นดีลโรงไฟฟ้ามูลค่า 3 พันล้านบาท และอีก 1 ดีล มูลค่า 500-600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯยังไม่สามารถบอกรายละเอียดว่าเป็นลักษณะการลงทุนแบบใด
นอกจากนี้ ยังมีงานที่ปรึกษาในการเข้าไปลงทุนโดยตรงอีก 4-6 ดีล มูลค่า 1 พันล้านบาท โดยคาดว่าภายในไตรมาส 3 ปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปสำหรับดีลดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการประเมินมูลค่าของดีลอยู่ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศประมาณ 2-3 ดีล มูลค่า 3 พันล้านบาท ซึ่งมองว่าอาจจะยังไม่สรุปปีนี้เพราะแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นช่วงขาขึ้น จึงอาจจะทำให้ชะลอการลงทุนไปก่อน
นายเชาว์ อรัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO เปิดเผยว่า ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์) เฉลี่ยทั้งปีนี้คงจะไม่ถึง 5% จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 4.2% เนื่องจาก ภาวะตลาดไม่เอื้อจากได้รับปัจจัยลบจากต่างประเทศและปัจจัยทางการเมืองกดดันในช่วงไตรมาส3/51นี้ แต่เชื่อว่าไตรมาส4/51ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นน่าปรับตัวดีขึ้น จากราคาน้ำมันที่น่าจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ดี หากในช่วงไตรมาส4/51 มาร์เกตแชร์ของปรับตัวขึ้นได้ที่ระดับ 5% ถือว่าอยู่ระดับที่ดี
ทั้งนี้การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน)นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น และไม่ต้องตั้งสำรองเพราะลูกค้าไม่ได้มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว เพราะบริษัทเลือกปล่อยมาร์จิ้นให้กับลูกค้าที่ดี ซึ่งในช่วงเดือนเม.ย. - พ.ค. ปล่อยวงเงินมาร์จิ้น 2,000 ล้านบาท และปัจจุบันมีจำนวนปล่อยวงเงินมาร์จิ้นอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท โดยบริษัทคาดรายได้ปีนี้น่าจะโตกว่าปี 50 ที่มีรายได้ 849 ล้านบาท
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ ZMICO เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับโบรกเกอร์เวียดนาม 3 ราย เพื่อเข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยเป็ลักษณะการร่วมทุน ซึ่งจะถือหุ้นในสัดส่วน 40-50%คาดว่าจะสรุปได้ไตรมาส3 ปีนี้
ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุนในเวียดนามน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปลงทุนจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงไปคอ่นข้างแรงกว่า 60% แต่พื้นฐานโดยรวมยังดีอยู่ ขณะที่เดียวกันราคาหุ้นในระดับนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ซึ่งการที่บริษัทหันไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มไม่ค่อยดี ซึ่งบริษัทฯมีศักยภาพและความพร้อมที่จะออกไปต่างประเทศ และยังเป็นการกระจายรายได้ไม่ให้กระจุกเพียงแต่ในประเทศ
นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการผู้จัดการด้านบริษัทหลักทรัพย์ ZMICO เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 3-5 ดีล มูลค่ารวมประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยคาดว่าไอพีโอดังกล่าว อาจจะไม่ได้เข้าจดทะเบียนไม่ทันปีนี้เพราะ ภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย ส่วนงานด้านที่ปรึกษาควบรวมกิจการ(M&A) ปัจจุบันบริษัทฯมีดีล 8-10 ดีล มูลค่าทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท คาดจะเห็นปีนี้ 1-2 ดีล โดยแบ่งเป็นดีลโรงไฟฟ้ามูลค่า 3 พันล้านบาท และอีก 1 ดีล มูลค่า 500-600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯยังไม่สามารถบอกรายละเอียดว่าเป็นลักษณะการลงทุนแบบใด
นอกจากนี้ ยังมีงานที่ปรึกษาในการเข้าไปลงทุนโดยตรงอีก 4-6 ดีล มูลค่า 1 พันล้านบาท โดยคาดว่าภายในไตรมาส 3 ปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปสำหรับดีลดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการประเมินมูลค่าของดีลอยู่ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศประมาณ 2-3 ดีล มูลค่า 3 พันล้านบาท ซึ่งมองว่าอาจจะยังไม่สรุปปีนี้เพราะแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นช่วงขาขึ้น จึงอาจจะทำให้ชะลอการลงทุนไปก่อน