KEST ไตรมาส 2 ปีนี้ กวาดกำไร 174 ล้านบาท หรือเพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกิน70% ผลจากรายได้นายหน้าค้าหลักทรัพย์และรายได้ค่านายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้าล้วนเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่งวด 6 เดือนกำไรพุ่งเกิน 103%
นายภูษิต แก้วมงคลศรี กรรมการและประธานเจ้าหนาที่ปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ( KEST ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 51 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 173.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 101.48 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มร้อยละ 70.33 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากค้านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 144.92 ล้านบาท เป็น 468.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.83 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2,316 ล้านบาท เป็น 3,414 ล้านบาทอันมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อย และปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 11.73 ล้านบาทเป็น 24.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 91.11 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 652 สัญญา เป็น 1,277 สัญญา ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดอนุพันธ์ และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพือซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 8.18 ล้านบาท เป็น 21.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.25 เนื่องมาจากความต้องการเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่สูงขึ้น
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 63.78 ล้านบาท เป็น 328.53 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.09 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นได้แก่ค่าธรรมเนียมจ่ายเพิ่มขึ้น 5.73 ล้านบาทและค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 48.17 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์และผลตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาดจากการที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 78%
อย่างไรก็ดี ผลงานงวด 6 เดือนริษัทมีกำไรสุทธิ 339.99 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 172.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 103.28 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 167.26 ล้านบาท อันเป็นผลจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นทุกธุรกิจ
นายภูษิต แก้วมงคลศรี กรรมการและประธานเจ้าหนาที่ปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ( KEST ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 51 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 173.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 101.48 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มร้อยละ 70.33 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากค้านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 144.92 ล้านบาท เป็น 468.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.83 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2,316 ล้านบาท เป็น 3,414 ล้านบาทอันมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อย และปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 11.73 ล้านบาทเป็น 24.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 91.11 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 652 สัญญา เป็น 1,277 สัญญา ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดอนุพันธ์ และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพือซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 8.18 ล้านบาท เป็น 21.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.25 เนื่องมาจากความต้องการเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่สูงขึ้น
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 63.78 ล้านบาท เป็น 328.53 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.09 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นได้แก่ค่าธรรมเนียมจ่ายเพิ่มขึ้น 5.73 ล้านบาทและค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 48.17 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์และผลตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาดจากการที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 78%
อย่างไรก็ดี ผลงานงวด 6 เดือนริษัทมีกำไรสุทธิ 339.99 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 172.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 103.28 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 167.26 ล้านบาท อันเป็นผลจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นทุกธุรกิจ
