บล. ซีมิโก้ ฟุ้งกำไรไตรมาส 2 เพิ่มเกือบ 350% เหตุรายได้ค่านายหน้าสุทธิเพิ่ม หลังจากส่วนแบ่งการตลาดขยับจาก 2.8 % เป็น 4.5% รวมทั้งธุรกิจนายหน้าการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเติบโตในทิศทางเดียวกัน สวนทางรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลด เหตุลูกค้าเลื่อนเพราะไม่มั่นใจกับภาวะการลงทุน
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ( ZMICO ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ในงบรวมว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 27.80 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 11.28 ล้านบาท หรือฟื้นกำไร 346.45%
โดยรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ธุรกิจนายหน้าสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 122 ล้านบาท เป็น 183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.8 เป็น ร้อยละ 4.5 สำหรับธุรกิจนายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.6 เป็นร้อยละ 5.6 ตามลำดับ รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านบาท เป็น 22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 จากจำนวนเงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้นจากงวดก่อน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลงจาก 6 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนของภาวะการลงทุน ทำให้ลูกค้าบางส่วนเลื่อนการใช้บริการออกไปในครึ่งปีหลัง ขณะที่ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาดซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์
สำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 69 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของงวดเดียวกันปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 4 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้ธุรกิจนายหน้าสุทธิเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 4 ล้านบาท ผลตอบแทนจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 45 ล้านบาทส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานอันเนื่องมาจากการจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้นตาม ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ( ZMICO ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 ในงบรวมว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 27.80 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 11.28 ล้านบาท หรือฟื้นกำไร 346.45%
โดยรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ธุรกิจนายหน้าสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 122 ล้านบาท เป็น 183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.8 เป็น ร้อยละ 4.5 สำหรับธุรกิจนายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.6 เป็นร้อยละ 5.6 ตามลำดับ รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านบาท เป็น 22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 จากจำนวนเงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้นจากงวดก่อน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลงจาก 6 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนของภาวะการลงทุน ทำให้ลูกค้าบางส่วนเลื่อนการใช้บริการออกไปในครึ่งปีหลัง ขณะที่ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาดซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์
สำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 69 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของงวดเดียวกันปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 4 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้ธุรกิจนายหน้าสุทธิเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 4 ล้านบาท ผลตอบแทนจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 45 ล้านบาทส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานอันเนื่องมาจากการจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้นตาม ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์
