ประธานโอเปกชี้ ราคาน้ำมันดิบขณะนี้ เคลื่อนไหวแบบผิดปรกติ และไม่สอดคล้องกับปัจจัยอุปสงค์-อุปทาน เพราะไม่สามารถอธิบายได้ว่า ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปถึง 20 ดอลลาร์/บาเรล ในช่วงเวลาเพียง 1 ถึง 2 วัน เป็นความต้องการของตลาดที่แท้จริง พร้อมตั้งข้อสังเกตุ อุปสงค์ และอุปทาน เปลี่ยนได้ในวันเดียวจริงหรือ
วันนี้ (29 ก.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายคากิบ เคลิล ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกมาเปิดเผยสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน อยู่ในระดับที่ผิดปกติ พร้อมยืนยันว่า โอเปกจะไม่มีการลดการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานน้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงเกิน ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยในเรื่อง สถานการณ์น้ำมันที่สูงขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเช่นนี้ ถือว่าไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน"
โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงทำให้นักลงทุนหันเข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับปัจจัยอุปสงค์และอุปทาน เพราะเราไม่สามารถอธิบายได้ว่า ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปราว 20 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเพียง 1 วันหรือ 2 วัน เป็นเพราะปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทาน เพราะปัจจัยอุปสงค์และอุปทานไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภายในวันเดียวได้"
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันได้กว่า 40% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก จะจัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 ก.ย.ปีนี้ เพื่อทบทวนเพดานการผลิตหลังจากที่โอเปกได้ตรึงเพดานการผลิตในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปี 2550 , เดือน ก.พ. และเดือน มี.ค.ปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ก่อนหน้านี้ประธานโอเปกได้คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจร่วงลงแตะระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านบรรเทาลง
"ผมมั่นใจว่าหากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น และความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกคลี่คลายลง ก็จะทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงไปแตะที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์" นายเคลิล กล่าวสรุปทิ้งท้าย