ธปท.เผยประมาณการตัวเลขศก.ไตรมาส 2 ยังโตได้ถึง 6% ยอมรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ตัวเลขนำเข้าพุ่งสูงขึ้น แต่ยังมีตัวเลขสินค้าส่งออกที่ดี คาดทั้งปียังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้
วันนี้ (30 มิ.ย.) นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในปี 51 ไทยยังน่าจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อไป แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอาจจะไม่สูงเท่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในครั้งก่อนที่ 4-7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เหตุที่คาดการณ์ดังกล่าว เนื่องจากในช่วง 5 เดือนแรกของปี 51 เกินดุลบัญชีเดินสะพัดไปแล้ว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกน่ายังน่าจะขยายตัวได้ดี
"แต่ตราบใดที่ราคาน้ำมันยังสูงและไม่มีการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ก็จะเป็นแรงกดดันที่สำคัญต่อดุลบัญชีเดินสะพัด เพราะแม้จะมีการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลลดลง แต่ก็จะไปเพิ่มการใช้ก๊าซทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี ซึ่งจะทำให้มูลค่าการนำเข้าปิโตรเลียมอยู่ในระดับสูงอยู่ดี"
นางอมรา กล่าวว่า สำหรับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/51 ไม่น่าจะปรับตัวต่ำกว่า 6% ในไตรมาส 1/51 โดยยังมีการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีเป็นแรงผลักดันสำคัญ และการบริโภคก็ยังขยายตัวได้ดีอยู่ แม้ว่าบางเดือนการส่งออกจะชะลอไปบ้าง แต่ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/51 ก็ยังเติบโตอยู่ ขณะที่การบริโภคบางเดือนขยายตัวบางเดือนไม่ขยายตัว แต่ช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/51 ก็ยังเติบโตใกล้เคียงไตรมาสแรก แต่มองว่าครึ่งปีหลังอุปสงค์ในประเทศจะไม่เติบโตมากเพราะฐานปีก่อนค่อนข้างสูง
ธปท.แถลงภาวะเศรษฐกิจล่าสุดเดือน พ.ค.51 โดยรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านอุปทานที่ยังขยายตัวในเกณฑ์ดีตามผลผลิตพืชสำคัญที่ขยายตัวดีมากเช่นเดียวกับราคา ส่งผลให้รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญเร่งตัวขึ้นมากจากเดือน เม.ย. 51
ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ในด้านอุปสงค์ การบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งปริมาณการส่งออกและการนำเข้าชะลอตัวลง
ด้านเสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลจากมูลค่าการนำเข้าที่ลดลง เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง ในด้านเสถียรภาพในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นมากจากเดือนก่อนหน้า