xs
xsm
sm
md
lg

TGPRO เพิ่มทุน 341 ล้านให้รายเดิม ขายราคา1บ.สูงกว่าเทรดในกระดาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

TGPRO เพิ่มทุนอีก 341 ล้านบาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 1หุ้นเดิมต่อ1หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาทสูงกว่าราคาเทรดในกระดานถึงหุ้นละ 83 สตางค์ เผยหากหุ้นเหลือก็จะเสนอขายP P โดยเงินเพิ่มทุนนี้ใช้เป็นทุนหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบและปรับปรุงเครื่องจักร รองรับตลาดท่อสเตนเลสอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูง

นายรชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)(TGPRO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2551 เมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 341,334,364 บาท มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังลดทุนจดทะเบียนที่ไม่ได้นำออกจำหน่าย 7,628,912 บาทแล้ว โดยจัดสรรขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนหุ้น ณ วันที่ 4 ส.ค. 51 ตามสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท ส่งผลให้มีทะเบียนใหม่ 716,835,395 บาทแบ่งเป็นหุ้นสามัญ 716,835,395 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท

โดยเงินที่ได้จะนำไปใช้ซ่อมบำรุงเครื่องจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรผลิตแผ่นสแตนเลส 91 ล้านบาท และเป็นหลักทรัพย์ ค้าประกันวงเงินสิ นเชื่อใหม่หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบ 250 ล้านบาท ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทดีขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 14 เท่า ลดลงเหลือ 3 เท่ากว่า โอกาสที่จะกู้เงินสถาบันการเงินก็ทำได้ง่ายขึ้น

"ราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ทำให้การลงทุนโครงการผลิตเอทานอลเพิ่ม ซึ่งต้องใช้ท่อสเตนเลสสูงมาก ยิ่งภาครัฐส่งเสริมการใช้อี 20 และอี 85 การใช้เอทานอลจะยิ่งทวี ดังนั้น 2-3ปีข้างหน้าเราเข้าเจาะตลาดนี้ หากเพิ่มทุนสำเร็จจะมีเงินทุนซื้อวัตถุดิบเพิ่มขึ้นอีก 20-30% ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้นในช่วงไตรมาส 4 นี้"

นายรชต กล่าวว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ที่ 1 บาท/หุ้นนั้นสูงกว่าราคาตลาดที่หุ้นTGPRO เทรดอยู่ที่ 83 สตางค์/หุ้น โดยชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจแล้วว่าเงินเพิ่มทุนครั้งนี้จะใช้ลงทุน หากเพิ่มทุนสำเร็จจะทำให้ฐานะการเงินบริษัทแข็งแกร่งขึ้น และมีแผนกู้เงินจากแบงก์เพิ่มอีก 500 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน จึงอยากให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว โดยกลุ่มรชตถือหุ้นอยู่รวม 50% ก็จะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้

ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 20.51 %ก็ยังไม่ตอบกลับว่าจะรักษาสิทธิการเพิ่มทุนดังกล่าวหรือไม่ คาดว่าจะรู้ผลได้อย่างช้า 18-22 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันกำหนดการชำระเงินจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และหากมีหุ้นเหลือ ก็จะเสนอขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อเกินสิทธิ และหากยังมีหุ้นเหลืออีกก็จะเสนอขายหุ้นดังกล่าวให้เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด ซึ่งบริษัทฯได้มีการหารือกับนักลงทุนอื่นไว้บ้างแล้ว

ปัจจุบัน บริษัทฯ เดินเครื่องจักรผลิตท่อสเตนเลสเพื่ออุตสาหกรรมและแผ่นสเตนเลส ด้วยกำลังผลิต 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตรวม 4- 5 หมื่นตัน เพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน แม้ตลาดส่งออกมีความต้องการท่อสเตนเลสถึงปีละ 3-4 หมื่นตัน แต่บริษัทฯส่งออกได้เพียง 3 พันกว่าตัน

สำหรับผลการดำเนินงานปีนี้คาดว่าบริษัทฯมีรายได้โตจากปีก่อน 10% โดย 60 % ขายในประเทศที่เหลือจะส่งออก เพราะตลาดในประเทศไม่ดี จึงเพิ่มการส่งออก ขณะที่ราคาวัตถุดิบลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 13% และน่าจะมีกำไรแม้ว่าไตรมาสแรกจะขาดทุน 19 ล้านบาท

" ต้นปีหน้าบริษัทฯ มีแผนทำตลาดท่อที่ใช้ด้านพลังงาน ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาพาร์ทเนอร์ต่างชาติเพื่อซัปพอร์ตเทคโนโลยีอ หากไม่สำเร็จก็คงต้องนำเข้ามาทำตลาดทั้งในและต่างประเทศแทน"
กำลังโหลดความคิดเห็น