xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.หั่นเป้าจีดีพีลง 0.2% คาดเงินเฟ้อเฉลี่ย 7.5-8.8%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธปท.ปรับลดคาดกา่รณ์ GDP ปี 51 ลงอีก 0.2% โดยคาดว่าจะโตในระดับ 4.8-5.8% ส่วนคาดการณ์แนวโน้มปี 52 โตประมาณ 4.3-5.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าอยู่ที่ระดับ 7.5-8.8% ชี้ ปัจจัยลบยังคงรุมเร้าต่อเนื่ง ทั้งราคาน้ำมัน และภาวะ ศก.โลก

วันนี้ (28 ก.ค.) นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2551 ลดลงจากประมาณการเดิม โดยคาดว่าปีนี้จีดีพีจะเติบโต 4.8-5.8% เนื่องจากในปีนี้โดยรวมมีปัจจัยด้านลบมากกว่าปัจจัยด้านบวก โดยปัจจัยด้านลบ ได้แก่ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อาจปรับสูงขึ้นจากอุปทานน้ำมันที่ยังคงไม่แน่นอน และการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจต่ำกว่าที่คาด เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเปราะบาง

สมมติฐานอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่สูงขึ้นจากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อ, อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสูงขึ้นจากประมาณการเดิม โดยเฉพาะเศรษฐกิจเอเชียยังแข็งแกร่ง, ค่าเงินในภูมิภาคมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นน้อยกว่าเดิม เนื่องจากแนวโน้มดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นผลจากการดำเนินนโยบายของทางการสหรัฐฯ

ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจเร่งรัดการเบิกจ่ายและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อชดเชยผลของอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาด สำหรับแนวโน้มจีดีพีปี 2552 คาดว่า จะโตถึง 4.3-5.8% ลดลงจากประมาณการเดิมเมื่อเดือน เม.ย.ที่คาดว่าจะโต 4.5-6.0%

ทั้งนี้ ธปท.ได้เปลี่ยนแปลงสมมติฐานราคาน้ำมันที่ใช้ในการประมาณการ โดยในปี 2551 ใช้ประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีที่ 119.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดือน เม.ย.ที่มีสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบทั้งปีอยู่ที่ 93.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2552 ใช้สมมติฐานที่ 135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่อยู่ 94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2551 ปรับมาเป็น 7.5-8.8% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 2.8-3.8% ส่วนในปี 2552 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 5.0-7.5% และ เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 3-4%
กำลังโหลดความคิดเห็น