xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นภาคบ่ายรูดหนักกว่า 20 จุด โบรกฯ ชี้กลุ่ม ปตท.โดนฟอร์ซ เซลล์แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่าย เปิดตลาดร่วงลงทันที 2% หลังมติ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด สะท้อนภาพแนวโน้มเงินเฟ้อสูง โดยการปรับเล็กน้อย บ่งชี้ปัญหาศก.ที่ยืดเยื้อ ล่าสุด 15.00 น. ดัชนีร่วงไปกว่า 3% โดยมีแรงขายในกลุ่มบิ๊กแคป เชื่อหุ้น ปตท.ยังโดนฟอร์ซ เซลล์

ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (16 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยเปิดบ่ายมาร่วงทันที 2% หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาที่ 3.50% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเงินเฟ้อยังสูง โดยเมื่อเวลา 14.30 น. ดัชนีปรับตัวลงทันที 15.20 จุด มาอยู่ที่ระดับ 678.21 จุด หรือเปลี่ยแปลง -2.19% มีแรงขายหนาแน่นกลุ่ม ปตท. คาดต่างชาติเทขายหนัก

โดยราคาหุ้น PTT ร่วงลงต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 300 บาท มาอยู่ที่ 252 บาท ในวันนี้หรือร่วงลง 16% PTTEP อยู่ที่ 194 บาท ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. แต่ล่าสุดร่วงลงมาอยู่ที่ 149 บาท หรือร่วงลงถึง 23.19%

โดยเมื่อเวลา 14.36 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 675.81 จุด ลดลง 17.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7,626.07 ล้านบาท

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ช่วงบ่ายดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญ่บางตัวถูกฟอร์ซ เซลล์ หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาติดต่อกันหลายวัน โดย 3 วันดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 60 จุด

ขณะที่ราคาหุ้นใหญ่อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปรับตัวลดลงมาแรงพอสมควรจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งหุ้นเก็งกำไรหลายตัวก็โดนฟอล์ซ เซลล์เช่นกัน

"หุ้นใหญ่หลายตัวโดนเรียกคอล มาร์จิ้น แต่นักลงทุนไม่มีเงินมาจ่ายจึงโดนฟอร์ซ เซลล์ออกมา เหมือนกับ RICH และ TUCC ที่เคยโดน พอคนเล่นมาร์จิ้นโดนฟอร์ซเซลล์ คนเล่นเงินสดเทขายตามมาอีกจึงกดดันให้ดัชนีปรับตัวลดลงแรงในช่วงบ่าย"

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นซับไพรม์ของสหรัฐและการเมือง รวมทั้งราคาน้ำมันเข้ามากระทบบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ แนวรับของดัชนีนนั้นประเมินได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับการปรับตัวลดลงของหุ้นใหญ่ โดยหวังว่าแนวรับ 670 จุดจะรับอยู่

ด้านนายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ร่วงลงมากว่า 2% ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่แดนลบ โดยคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ต่อเนื่อง เนื่องจากมีปัจจัยลบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังเป็นเรื่องของการเมืองที่ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ไทยยังมีประเด็นเรื่องเศรษฐกิจที่ยังน่าวิตกกังวลอยู่ แม้ว่ารัฐฯจะออกมาตรการมา 6 ข้อเพื่อช่วยเหลือแล้ว แต่ก็มีการมองกันว่าไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นได้

สำหรับผลการประชุมกนง.ที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เรื่องนี้ตลาดฯได้รับรู้แล้ว ทั้งนี้ ตลาดฯยังอยู่ภายใต้แรงขายต่อไป แม้ว่าจะมีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้ในบางขณะเมื่อดัชนีฯลงมาลึกแถวบริเวณแนวรับถัดไปที่ 670 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 690 จุด พร้อมมองทิศทางโดยรวมขณะนี้ยังเป็นขาลง และช่วงเวลาที่เหลือของเดือนนี้ (ก.ค.) มีกรอบการแกว่งที่ 650-700 จุด

โดยเมื่อเวลา 14.57 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 673.29 จุด ลดลง 20.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8,750.85 ล้านบาท

ล่าสุด 15.10 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 671.00 จุด ลดลง 22.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,647.99 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น