บางจากฯ คาดหลังรีไฟแนนซ์หนี้ก้อนโต 2.8 หมื่นลบ. ส่งผลภาระดอกเบี้ยลด 1% จากเดิม 7% และมีสภาพคล่องเพิ่ม
วันนี้ ( 2 ก.ค.) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้กู้เงิน 28,980 ล้านบาท จาก 6 แบงก์ เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ ทำใำำห้บริษัทเกิดความคล่องตัวทางการเงิน พร้อมได้ลดดอกเบี้ยลง 1% และส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า หลังโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) แล้วเสร็จ
นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน BCP กล่าวว่า หลังปรับโครงสร้างหนี้จากการกู้เิงินสถาบันการเงิน จำนวน 28,980 ล้านบาท ทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทลดลง 1% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% และอายุหนี้ขยายออกไปเป็น 9 ปีจากเดิม 6 ปี ซึ่งสอดคล้องการลงทุนในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากเงื่อนไขการชำระเงินในช่วง 4 ปีแรกยังค่อนข้างต่ำ
"การกู้เงินมารีไฟแนนซ์หนี้ครั้งนี้ ทำให้เรามีสภาพคล่องมากขึ้นในการลงทุน 3-4 ปีข้างหน้า หลังโครงการ PQI เสร็จ ซึ่งบริษัทก็จะต้องมีัโครงการใหม่ๆเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น และรายได้จะเติบโตมากจากโครงการ PQI จะทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้น" นายปฏิภาณ กล่าว
วันนี้ BCP ลงนามในสัญญาสินเชื่อ 28,980 ล้านบาท อันประกอบด้วยสัญญาเงินกู้ระยะยาว 9 ปี วงเงิน 16,500 ล้านบาท สัญญาให้สินเชื่อหมุนเวียนและอื่น ๆ 12,480 ล้านบาท กับกลุ่มธนาคารผู้ให้สินเชื่อ ได้แก่ ธ.ไทยพาณิชย์(SCB) ธ.กรุงศรีอยุธยา(BAY) ธ.ทหารไทย(TMB) ธ.นครหลวงไทย(SCIB) ธ.เอบีเอ็น แอมโร เอ็น.วี. (สาขาสิงคโปร์) และธ.มิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด
การปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการบริหารการเงิน และสามารถจัดโครงสร้างเงินกู้ให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างรายได้ โดยจะดำเนินการ Refinance ด้วยการชำระคืนเงินกู้และทดแทนเงินกู้โครงการ PQI รวมถึงรองรับการขยายการลงทุนสำหรับธุรกิจในอนาคต ได้แก่ โครงการ Euro IV และโครงการที่เกี่ยวข้องในด้านพลังงานอื่นๆ
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า การที่บริษัทได้รับเงื่อนไขการกู้เงินที่ดีขึ้น เป็นการแสดงให้เห็นว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั้ง 6 แห่ง มีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานและการดำเนินธุรกิจของ BCP โดยปรับสัญญาเงินกู้จาก Project Finance เป็น Corporate Finance มีเงื่อนไขในสัญญารูปแบบเดียวกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดีียวกันหรือใกล้เคียง ซึ่งหมายถึงการมีเสถียรภาพทางการเงินดีขึ้น ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้สอดคล้องกัลยุทธศาสตร์และเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ นายปฏิภาณ กล่วว่า บริษัทมีแผนจะไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์ ในสัปดาห์นี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนทั้งรายเก่าและใหม่ โดยเฉพาะโครงการ PQI โดยมองว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ถือว่าต่ำกว่า ปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ ราคาหุ้น BCP ปิดภาคเช้าที่ราคา 11.60 บาท ลดลง 0.10 บาท เปลี่ยนแปลง -0.85%
