สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ผนึกสมาชิก 21 บลจ. จัดงานตลาดนัดกองทุนรวม ณ ศูนย์การค้า Esplanade ในวันที่ 5-6 กรกฎาคมนี้ หวังกระตุ้นจำนวนนักลงทุนหน้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และหาทางเลือกลงทุนชนะเงินเฟ้อ โดยมุ่งเป้าเพิ่มยอดซื้อกองทุน RMF และ LTF เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนรวมทั้งอุตสาหกรรม แถมท้ายด้วยโปรโมชั่นจุใจ
นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการและผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า สมาคมบริษัทจัดการกองทุน ได้จัดงานตลาดนัดกองทุนรวมขึ้น ในวันที่ 5-6 มิถุนายน 2551 ณ ศูนย์การค้า Esplanade ภายใต้ชื่อ "ออมให้คุ้มด้วยกองทุนรวม"ซึ่งโดยทั่วไปหากสมาคมจะจัดงานขึ้นในช่วงกลางปี ดังนั้นการจัดงานในครั้งนี้น่าจะได้ผลตอบรับที่ดีมากอีกปีหนึ่ง เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีมูลค่าเพิ่ม ในช่วงที่มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ความหลากหลายสไตล์การลงทุนทั้ง หุ้น พันธบัตร ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ทุกตราสารการเงินผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีมืออาชีพที่เข้ามาช่วยดูแล
"เรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญสำหรับนักลงทุน และในปีนี้ทางกรมสรรพากรได้ปรับเพิ่มวงเงินการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF)และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)จากวงเงิน 300000 เป็น 500000 บาท ทำให้คาดว่าจะมีผู้ลงทุนจากงานนี้เพิ่มขึ้น"
สำหรับนักลงทุนที่เข้าใจสภาวะการลงทุนในประเภทลงทุนในหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาก ทำให้ราคาหุ้นถูกลง จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะนักลงทุนที่ลงทุนรายเดิมสามารถซื้อหุ้นเข้าเก็บไว้ในพอร์ตเพื่อทำกำไรในระยะยาวได้ดี ทั้งนี้ หากดูจากตัวเลขมูลค่าหน่วยลงทุน (เอ็นเอวี) เมื่อเทียบกับปลายปีที่ผ่านมา หรือต้นปีที่ผ่านมาจะพบว่าตัวเลขเอ็นเอวีไม่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยอาจจะมีการปรับตัวขึ้นลงเล็กน้อย ดังนั้นการจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
นอกจากนี้ การจัดงานช่วงกลางปี ถือเป็นจังหวะที่ดีเพราะจะเป็นการกระตุ้นการใช้สิทธิวางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับนักลงทุน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องภาษีในช่วงกลางปีจนถึงสิ้นปี ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้สมาคมมีการจัดงานตลาดนัดกองทุนรวมมาเป็นปีที่ 5 แล้ว
ขณะเดียวกัน เนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจ ขณะนี้ที่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามามีผลกระทบ ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ดังนั้น การลงทุนในกองทุนLTF และกองทุนRMF จึงถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ในระยะที่ผ่านมากองทุนทั้ง 2 กองเป็นได้เป็นที่รู้จักของนักลงทุนมากขึ้น อีกทั้งมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาก และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผลสรุปจากการกิจกรรมกลางปีที่ผ่านมา พบว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นการช่วยกระตุ้นนักลงทุนที่สำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง โดยจากสถานะการณ์ตลาดในช่วงนี้ที่ทำให้นักลงทุนมองว่าตลาดหลักทรัพย์อยู่ในช่วงติดลบจึงไม่กล้าที่จะลงทุน แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในตราสารทุนสามารถมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการลงทุนใน LTF ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว 5 ปี ขึ้นไป ราคาหุ้นอาจจะมีลดลง หรือการแกว่งได้ตลอดเวลา แต่เมื่อดูอัตราผลตอบแทนระยะยาวแล้ว จะอยู่ที่ระดับกลางถึงดี โดยเมื่อนำมาเฉลี่ยจะพบว่ากองทุนที่ลงทุน 5 ปี จะให้ผลตอบแทนประมาณ 30%
สำหรับการจัดงานในครั้ง นับเป็นการครั้งที่ 2 ที่สมาคมได้จัดงานดังกล่าวขึ้น ณ ศูนย์การค้า Esplanade ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมได้จัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เนื่องจากการจัดงานที่ศูนย์การค้าทำให้สมาคมพบว่าสามารถช่วยกระตุ้นนักลงทุนหน้าใหม่ที่เดินผ่านไปมาอยู่ในห้างให้หันมาสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้น ณสถานที่นี้อีกครั้ง
นางสาวดวงกมล กล่าวว่า ขณะเดียวกันภายในงาน ได้มีการจัดสัมนาขนาดใหญ่สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากหาความรู้เพิ่มเติม โดยทางสมาคมได้จัดให้มีห้องสัมนาขนาดใหญ่ที่จะสามารถรองรับนักลงทุนได้ประมาณ 80-100 คนซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายใหม่เข้ามาร่วมรับฟังด้วย
"ผลตอบรับที่คาดว่าจะได้รับจากนักลงทุนในการจัดงานครั้งนี้ สมาคมหวังว่าผลตอบรับจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีนักลงทุนหน้าใหม่ หรือนักลงทุนรายเดิมลงทุนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกองทุนรวม LTF และ RMF จะเป็นกองทุนสำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของธุรกิจกองทุนรวม เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ลงมีความต้องการที่จะมีฐานเงินออมในระยะยาว"
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานในครั้งมีบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.)เข้าร่วมทั้งหมด 21 บริษัท ซึ่งเหมือนกับการจัดงาน MONEY EXPO คือจัดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนได้รับmik[ข้อมูลความรู้ในเรื่องกองทุนรวมจากทุก บลจ. ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่นำออกมาขาย วิธีการลงทุน โดยทุกบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่สำหรับให้คำแนะนำและการคำนาณภาษี
รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมออกบูธในงาน "ตลาดนัดกองทุนรวม: Mutual Fund Fair" ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, มูลนิธิกองทุนพัฒนาระบบตลาดทุน และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ซึ่งบลจ.ทิสโก้ มีโปรโมชั่นพิเศษสุด คือซื้อกองทุนมูลค่าตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป รับกระเป๋าผ้าลดโลกร้อน TISCO Stop Global Warming หรือซื้อกองทุน LTF/RMF ประเภทกองทุนหุ้นหรือกองผสม ยอดรวมทุก 30,000 บาท รับบัตรของขวัญ TOPS มูลค่า 100 บาท และซื้อกองทุน LTF/RMF ประเภทกองตราสารหนี้ ยอดรวมทุก 60,000 บาท รับบัตรของขวัญ TOPS มูลค่า 100 บาท
ขณะเดียวกัน บลจ.ไอเอ็นจี แจ้งว่า สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน RMF & LTF โดยลงทุนตั้งแต่ 10,000 - 49,999 บาทต่อท่านต่อครั้ง รับฟรีผ้าขนหนูINGจำนวน 1 ผืน และสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป รับฟรี ตุ๊กตาสิงโต ING I love you จำนวน 1 ผืน
นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการและผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า สมาคมบริษัทจัดการกองทุน ได้จัดงานตลาดนัดกองทุนรวมขึ้น ในวันที่ 5-6 มิถุนายน 2551 ณ ศูนย์การค้า Esplanade ภายใต้ชื่อ "ออมให้คุ้มด้วยกองทุนรวม"ซึ่งโดยทั่วไปหากสมาคมจะจัดงานขึ้นในช่วงกลางปี ดังนั้นการจัดงานในครั้งนี้น่าจะได้ผลตอบรับที่ดีมากอีกปีหนึ่ง เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีมูลค่าเพิ่ม ในช่วงที่มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ ความหลากหลายสไตล์การลงทุนทั้ง หุ้น พันธบัตร ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ทุกตราสารการเงินผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีมืออาชีพที่เข้ามาช่วยดูแล
"เรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญสำหรับนักลงทุน และในปีนี้ทางกรมสรรพากรได้ปรับเพิ่มวงเงินการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF)และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)จากวงเงิน 300000 เป็น 500000 บาท ทำให้คาดว่าจะมีผู้ลงทุนจากงานนี้เพิ่มขึ้น"
สำหรับนักลงทุนที่เข้าใจสภาวะการลงทุนในประเภทลงทุนในหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาก ทำให้ราคาหุ้นถูกลง จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะนักลงทุนที่ลงทุนรายเดิมสามารถซื้อหุ้นเข้าเก็บไว้ในพอร์ตเพื่อทำกำไรในระยะยาวได้ดี ทั้งนี้ หากดูจากตัวเลขมูลค่าหน่วยลงทุน (เอ็นเอวี) เมื่อเทียบกับปลายปีที่ผ่านมา หรือต้นปีที่ผ่านมาจะพบว่าตัวเลขเอ็นเอวีไม่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยอาจจะมีการปรับตัวขึ้นลงเล็กน้อย ดังนั้นการจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน
นอกจากนี้ การจัดงานช่วงกลางปี ถือเป็นจังหวะที่ดีเพราะจะเป็นการกระตุ้นการใช้สิทธิวางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับนักลงทุน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องภาษีในช่วงกลางปีจนถึงสิ้นปี ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้สมาคมมีการจัดงานตลาดนัดกองทุนรวมมาเป็นปีที่ 5 แล้ว
ขณะเดียวกัน เนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจ ขณะนี้ที่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามามีผลกระทบ ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ดังนั้น การลงทุนในกองทุนLTF และกองทุนRMF จึงถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ในระยะที่ผ่านมากองทุนทั้ง 2 กองเป็นได้เป็นที่รู้จักของนักลงทุนมากขึ้น อีกทั้งมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาก และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผลสรุปจากการกิจกรรมกลางปีที่ผ่านมา พบว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นการช่วยกระตุ้นนักลงทุนที่สำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง โดยจากสถานะการณ์ตลาดในช่วงนี้ที่ทำให้นักลงทุนมองว่าตลาดหลักทรัพย์อยู่ในช่วงติดลบจึงไม่กล้าที่จะลงทุน แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในตราสารทุนสามารถมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการลงทุนใน LTF ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว 5 ปี ขึ้นไป ราคาหุ้นอาจจะมีลดลง หรือการแกว่งได้ตลอดเวลา แต่เมื่อดูอัตราผลตอบแทนระยะยาวแล้ว จะอยู่ที่ระดับกลางถึงดี โดยเมื่อนำมาเฉลี่ยจะพบว่ากองทุนที่ลงทุน 5 ปี จะให้ผลตอบแทนประมาณ 30%
สำหรับการจัดงานในครั้ง นับเป็นการครั้งที่ 2 ที่สมาคมได้จัดงานดังกล่าวขึ้น ณ ศูนย์การค้า Esplanade ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมได้จัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เนื่องจากการจัดงานที่ศูนย์การค้าทำให้สมาคมพบว่าสามารถช่วยกระตุ้นนักลงทุนหน้าใหม่ที่เดินผ่านไปมาอยู่ในห้างให้หันมาสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้น ณสถานที่นี้อีกครั้ง
นางสาวดวงกมล กล่าวว่า ขณะเดียวกันภายในงาน ได้มีการจัดสัมนาขนาดใหญ่สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากหาความรู้เพิ่มเติม โดยทางสมาคมได้จัดให้มีห้องสัมนาขนาดใหญ่ที่จะสามารถรองรับนักลงทุนได้ประมาณ 80-100 คนซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายใหม่เข้ามาร่วมรับฟังด้วย
"ผลตอบรับที่คาดว่าจะได้รับจากนักลงทุนในการจัดงานครั้งนี้ สมาคมหวังว่าผลตอบรับจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีนักลงทุนหน้าใหม่ หรือนักลงทุนรายเดิมลงทุนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกองทุนรวม LTF และ RMF จะเป็นกองทุนสำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของธุรกิจกองทุนรวม เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ลงมีความต้องการที่จะมีฐานเงินออมในระยะยาว"
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานในครั้งมีบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.)เข้าร่วมทั้งหมด 21 บริษัท ซึ่งเหมือนกับการจัดงาน MONEY EXPO คือจัดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนได้รับmik[ข้อมูลความรู้ในเรื่องกองทุนรวมจากทุก บลจ. ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่นำออกมาขาย วิธีการลงทุน โดยทุกบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่สำหรับให้คำแนะนำและการคำนาณภาษี
รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมออกบูธในงาน "ตลาดนัดกองทุนรวม: Mutual Fund Fair" ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, มูลนิธิกองทุนพัฒนาระบบตลาดทุน และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ซึ่งบลจ.ทิสโก้ มีโปรโมชั่นพิเศษสุด คือซื้อกองทุนมูลค่าตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป รับกระเป๋าผ้าลดโลกร้อน TISCO Stop Global Warming หรือซื้อกองทุน LTF/RMF ประเภทกองทุนหุ้นหรือกองผสม ยอดรวมทุก 30,000 บาท รับบัตรของขวัญ TOPS มูลค่า 100 บาท และซื้อกองทุน LTF/RMF ประเภทกองตราสารหนี้ ยอดรวมทุก 60,000 บาท รับบัตรของขวัญ TOPS มูลค่า 100 บาท
ขณะเดียวกัน บลจ.ไอเอ็นจี แจ้งว่า สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน RMF & LTF โดยลงทุนตั้งแต่ 10,000 - 49,999 บาทต่อท่านต่อครั้ง รับฟรีผ้าขนหนูINGจำนวน 1 ผืน และสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป รับฟรี ตุ๊กตาสิงโต ING I love you จำนวน 1 ผืน