มหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมอเลี้ยบส่อเค้าโกลาหลหลังโวขายถังก๊าซเอ็นจีวีเอื้ออาทรจำนวนมาก แต่สุดท้ายปตท.พร้อมหนุนเพียง 3 พันถังเท่านั้น คาดคนเข้าร่วมงานกว่า 1 ล้านรายเงินหมุนเวียนกว่า 3 พันล้านบาท ขณะที่ต้องงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แผนการจัดงานมหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 17 - 20 กรกฎาคมนี้ ตามนโยบายของนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังนั้นเริ่มส่อเค้าวุ่นวาย เนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบกับไฮไลท์ของงาน คือ การจัดโครงการถังก๊าซเอ็นจีวีเอื้ออาทรเริ่มประสบปัญหา
“เดิมนพ.สุรพงษ์ต้องการให้ไฮไลท์ของงานอยู่ที่การสนับสนุนพลังงานทางเลือก โดยต้องการเจรจาซื้อถังก๊าซล็อตใหม่เพื่อมาจำหน่ายกับประชาชนในราคาถูก และจะมีการแจกรถยนต์อี 85 แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการตกลงกันทางปตท.สามารถจัดหาถังก๊าซก๊าซมาให้ได้เพียง 1 พันถังเท่านั้น ขณะที่รถยนต์ อี 85 ก็ยังหาไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะใช้งบจากไหน”
ทั้งนี้ ทางปตท.แจ้งต่อที่ประชุมว่า ปตท.จะสนับสนุนถังก๊าซ พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง จำนวน 1,000 ถึง โดยราคาที่ประชาชนต้องจ่ายจะกำหนดไว้ที่ 3 หมื่นบาท สำหรับระบบดูด ที่เหลือปตท.จะสนับสนุนให้ โดยจะจัดสรรให้เฉลี่ยวันละ 250 คัน สำหรับประชาชนที่มาเข้าร่วมเล่นเกมส์ และจับฉลากผู้ที่ได้รางวัลในแต่ละวัน ซึ่งการที่ต้องใช้รูปแบบการเล่นเกมส์ และจับฉลากเพื่อป้องกันไม่ให้มีการล็อคชื่อ หรือเล่นพรรค เล่นพวก เพราะถังดังกล่าวมีจำนวนจำกัด
“แผนดังกล่าวจะเสนอนพ.สุรพงษ์ในการประชุมวันนี้แต่เชื่อว่าต้องโดนตำหนิแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้นพ.สุรพงษ์ได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะไปแล้วว่าจะมีจำนวนมาก และเปิดโอกาสให้ประชาชนวงกว้างเพื่อจูงใจให้คนมางาน แต่ถ้ามีแค่ 1 พันถังก็รับรองว่าโกลาหลแน่ เพราะที่ผ่านมามีประชาชนบางส่วนที่รอติดตั้งอยู่” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่ที่จะใช้ในงานทั้งสิ้นมีจำนวน 4 หมื่นตารางเมตร โดยภายในงานจะมีร้านค้ามาเข้าร่วมขายสินค้าราคาถูก จำนวน 1,000 ร้านค้า โดยสินค้าโดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น อาหารและปัจจัย 4 สินค้าโอทอป มาจำหน่าย เป็นต้น รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน เช่น ถังก๊าซเอ็นจีวี ราคาถูกและหลอดประหยัดพลังงาน เป็นต้น และยังมีตั๋วเครื่องบิน และแพ็กเกจทัวร์ราคาถูกเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย ขณะที่ทางองค์การเภสัชก็จะนำยารักษาโรค และครีมหน้าเด้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาจำหน่ายในราคาย่อมเยา
ทั้งนี้ได้มีการประเมินภาพรวมของโครงการว่าจะมีคนเข้ามาร่วมชมงานทั้งสิ้น จำนวน 1 ล้านคน และ มีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดในงานประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเก็บค่าเช่าพื้นที่ในราคาต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถจะจ่ายได้ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย หรือ สินค้าโอทอปที่ไม่สามารถที่จะจ่ายได้รัฐบาลก็จะให้เงินอุดหนุนบางส่วน แต่คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยให้บริษัท ซีเอ็ม ออร์แกไนเซอร์ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีแผนการใช้จ่ายเงินแต่อย่างใด
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แผนการจัดงานมหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 17 - 20 กรกฎาคมนี้ ตามนโยบายของนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังนั้นเริ่มส่อเค้าวุ่นวาย เนื่องจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบกับไฮไลท์ของงาน คือ การจัดโครงการถังก๊าซเอ็นจีวีเอื้ออาทรเริ่มประสบปัญหา
“เดิมนพ.สุรพงษ์ต้องการให้ไฮไลท์ของงานอยู่ที่การสนับสนุนพลังงานทางเลือก โดยต้องการเจรจาซื้อถังก๊าซล็อตใหม่เพื่อมาจำหน่ายกับประชาชนในราคาถูก และจะมีการแจกรถยนต์อี 85 แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการตกลงกันทางปตท.สามารถจัดหาถังก๊าซก๊าซมาให้ได้เพียง 1 พันถังเท่านั้น ขณะที่รถยนต์ อี 85 ก็ยังหาไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะใช้งบจากไหน”
ทั้งนี้ ทางปตท.แจ้งต่อที่ประชุมว่า ปตท.จะสนับสนุนถังก๊าซ พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง จำนวน 1,000 ถึง โดยราคาที่ประชาชนต้องจ่ายจะกำหนดไว้ที่ 3 หมื่นบาท สำหรับระบบดูด ที่เหลือปตท.จะสนับสนุนให้ โดยจะจัดสรรให้เฉลี่ยวันละ 250 คัน สำหรับประชาชนที่มาเข้าร่วมเล่นเกมส์ และจับฉลากผู้ที่ได้รางวัลในแต่ละวัน ซึ่งการที่ต้องใช้รูปแบบการเล่นเกมส์ และจับฉลากเพื่อป้องกันไม่ให้มีการล็อคชื่อ หรือเล่นพรรค เล่นพวก เพราะถังดังกล่าวมีจำนวนจำกัด
“แผนดังกล่าวจะเสนอนพ.สุรพงษ์ในการประชุมวันนี้แต่เชื่อว่าต้องโดนตำหนิแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้นพ.สุรพงษ์ได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะไปแล้วว่าจะมีจำนวนมาก และเปิดโอกาสให้ประชาชนวงกว้างเพื่อจูงใจให้คนมางาน แต่ถ้ามีแค่ 1 พันถังก็รับรองว่าโกลาหลแน่ เพราะที่ผ่านมามีประชาชนบางส่วนที่รอติดตั้งอยู่” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่ที่จะใช้ในงานทั้งสิ้นมีจำนวน 4 หมื่นตารางเมตร โดยภายในงานจะมีร้านค้ามาเข้าร่วมขายสินค้าราคาถูก จำนวน 1,000 ร้านค้า โดยสินค้าโดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น อาหารและปัจจัย 4 สินค้าโอทอป มาจำหน่าย เป็นต้น รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน เช่น ถังก๊าซเอ็นจีวี ราคาถูกและหลอดประหยัดพลังงาน เป็นต้น และยังมีตั๋วเครื่องบิน และแพ็กเกจทัวร์ราคาถูกเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย ขณะที่ทางองค์การเภสัชก็จะนำยารักษาโรค และครีมหน้าเด้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาจำหน่ายในราคาย่อมเยา
ทั้งนี้ได้มีการประเมินภาพรวมของโครงการว่าจะมีคนเข้ามาร่วมชมงานทั้งสิ้น จำนวน 1 ล้านคน และ มีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดในงานประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเก็บค่าเช่าพื้นที่ในราคาต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถจะจ่ายได้ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย หรือ สินค้าโอทอปที่ไม่สามารถที่จะจ่ายได้รัฐบาลก็จะให้เงินอุดหนุนบางส่วน แต่คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยให้บริษัท ซีเอ็ม ออร์แกไนเซอร์ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีแผนการใช้จ่ายเงินแต่อย่างใด
