xs
xsm
sm
md
lg

ธพ.เกาะติดยอดใช้ก๊าซหุงต้มพุ่งผวานำเข้ายาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- กรมธุรกิจพลังงานเกาะติดการใช้ก๊าซหุงต้มยอมรับน้ำมันราคาพุ่งดันให้คนแห่ติดก๊าซหุงต้มในรถยนต์มากขึ้นตามไปด้วยและต้องทำให้การนำเข้าลากยาวจนกว่าจะมีการขึ้นก๊าซหุงต้มรถยนต์และอุตสาหกรรมไประยะหนึ่งแล้ว พร้อมแจงการชะลอออกใบอนุญาตตั้งปั๊มก๊าซหุงต้มเพิ่มเหตุทำตามมติครม.รัฐบาลที่แล้วและอยู่ระหว่างรอคำวินิจฉัยจากกฤษฎีกาว่าจะครอบคลุมปั๊มเก่าใหม่อย่างไร ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันโต้ไม่ได้ฟันกำไร 2 แสนล้านบาท

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า จากระดับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้ความต้องการก๊าซหุงต้มยังคงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงโดยเฉพาะในรถยนต์ดังนั้นการนำเข้าก๊าซหุงต้มเดิมที่ได้มีการนำเข้ามาแล้ว 2 หมื่นตันคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกและการนำเข้าจะต้องต่อเนื่องออกไปอีกจนกว่าจะมีความชัดเจนถึงปริมาณการใช้ที่จะลดลงซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ชัดหลังการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเพื่อที่จะผลักดันผู้ใช้ส่วนนี้ไปติดตั้งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV แทน

“พ.ค.มีการนำเข้ามากกว่า 2 หมื่นตัน และธพ.ได้ติดตามใกล้ชิดและยอมรับว่าการใช้ก๊าซหุงต้มยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงในส่วนรถยนต์เพราะดูจากปั๊มพบว่ามีผู้มาแจ้งขอติดตั้งถังก๊าซหุงต้มในรถยนต์คิวยาวมากแม้ว่าจะมีการคิดค่าติดตั้งที่สูงขึ้นก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าถ้าราคาก๊าซหุงต้มส่วนนี้ขยับขึ้นและการบริการ NGV ก.ค.ของปตท.ดีขึ้นการใช้ก๊าซหุงต้มก็คงจะลดลงได้พอสมควร”นายเมตตากล่าว

ส่วนกรณีที่ธพ.ได้ชะลอการออกใบอนุญาตประกอบการปั๊มก๊าซหุงต้มนั้นเนื่องจากทำตามมติครม.รัฐบาลที่ผ่านมาที่ต้องการลดการใช้ก๊าซหุงต้มในรถยนต์ที่สูงขึ้นที่จะมีผลให้ไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเพื่อแก้ไขปัญหาที่ผู้ประกอบการหลายรายได้ลงทุนสร้างปั๊มไปก่อนหน้ามติครม. ธพ.จึงได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอคำวินิจฉัยเกี่ยวกับมติครม.ที่กำหนดห้ามให้ธพ.และกรุงเทพมหานครออกใบอนุญาตประกอบการสถานีบริการก๊าซหุงต้มเพิ่มเติมว่าขอบเขตการห้ามนั้นจะครอบคลุมปั๊มที่จะเกิดใหม่หรือรวมไปกับปั๊มที่ได้มีการออกแบบและก่อสร้างไปแล้วก่อนหน้ามติครม.ด้วยหรือไม่เพื่อที่จะตัดสินใจพิจารณาการอนุญาตใบประกอบการอีกครั้งหนึ่ง

ร้องนายกฯผ่อนผันห้ามตั้งปั๊มก๊าซหุงต้ม

นายจรูญ เอี่ยมสะอาด และนายสามารถ ทรัพย์พจน์ ตัวแทนผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี กล่าวหลังการยื่นหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี วานนี้(3มิ.ย.) ว่า เพื่อเรียกร้องให้ผ่อนผันมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่15 พ.ค. 2550 ที่ได้ชะลอออกใบอนุญาตเปิดสถานีบริการก๊าซหุงต้มเพราะต้องการส่งเสริมให้คนหันไปใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV แต่กลุ่มปั๊มก๊าซหุงต้ม 35 ราย ได้ลงทุนไปก่อนที่จะมีมติครม.กว่า 400 ล้านบาทแต่กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)ยังไม่ได้พิจารณาใบอนุญาต จึงไม่สามารถเปิดให้บริการได้

โรงกลั่นโต้ฟันกำไร2แสนล.

นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในประเทศทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วย บางจาก ไออาร์พีซี ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น เอสโซ่ สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (เอสพีอาร์ซี) ไทยออยล์ และ ปตท. มีกำไรจากค่าการกลั่นน้ำมันขั้นต้นเดือนพฤษภาคม 2551 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.10 บาทต่อลิตร (ประมาณ 5.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายภาษี และการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนอนุรักษ์พลังงาน จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36 สตางค์ต่อลิตร (ประมาณ 1.08 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)

“หากดูค่าการกลั่นรวมจะเห็นว่าส่วนของก๊าซหุงต้มเรามีกำไรการกลั่นติดลบถึง 4.7 เหรียญต่อบาร์เรลเมื่อรวมแล้วค่าการกลั่นเฉลี่ยจึงอยู่ที่ 5 เหรียญกว่าๆ ก็ถือว่าปกติมาก”นายชายน้อยกล่าว

ส่วนกรณีมีการนำเสนอว่าโรงกลั่นน้ำมัน มีกำไรในปี 2550 สูงกว่า 200,000 ล้านบาทเป็นตัวเลขที่ไม่ถูกต้องเพราะได้มีการนำรายได้จากสว่นอื่นๆไปคำวณรวม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีกำไรเพียง 54,000 ล้านบาทหรือเท่ากับผลตอบแทนต่อเงินทุนที่ใช้ก่อสร้างและดำเนินงานเพียง 6% ต่อปีเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น