xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วโลกผวาเงินเฟ้อคุกคาม "เอดีบี" ชี้เอเชีย เผชิญความเสี่ยงสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สำนักข่าวต่างประเทศ ชี้ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลก กำลังอยู่ในภาวะหวาดผวากับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในอัตราเร่ง มอร์แกนฯ เชื่อวิกฤตเงินเฟ้อยังพุ่งกระฉูดไปอีกหลายปี ส่งผลกระทบให้มูลค่าสินทรัพย์ทุกรูปแบบ ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ "เอดีบี" ชี้ภาวะเศรษฐกิจเอเชีย กำลังเผลิญความเสี่ยงสูง และถูกเงินเฟ้อคุกคามรุนแรงขึ้น

วันนี้ (16 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานบทวิเคราะห์การลงทุนของมอร์แกน สแตนเลย์ ฉบับล่าสุด ซึ่งระบุว่า สินทรัพย์การลงทุนทุกรูปแบบกำลังได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นพร้อมกันทั่วโลก โดยพบว่า 80% ของประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญอัตราเงินเฟ้อที่เกินกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนด ขณะเดียวกันมอร์แกนสแตนเลย์ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ยุคเงินเฟ้อ หลังจากกระบวนการโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจได้ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นสูงกว่าอุปทานในหลายภูมิภาคของโลก

ขณะที่ในช่วงธนาคารกลางสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำได้เนื่องจากระบบเศรษฐกิจยังค่อนข้างปิด หรือยังไม่เปิดเสรีเท่าที่ควร กระบวนการโลกาภิวัฒน์เพิ่มเริ่มต้น และการขยายตัวของภาคการผลิตยังอยู่ในอัตราที่สูง

มอร์แกน สแตนเลย์ ยังประเมินอีกว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงในช่วงหลายปีข้างหน้ายังไม่สะท้อนในตลาดพันธบัตรและในการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเป็นประเด็นระดับโลก และเป็นปัญหาที่ธนาคารกลางแทบทุกแห่งต้องเผชิญ เนื่องจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่จะกระทบโดยตรงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

**เอดีบี ชี้ศก.เอเชียเผชิญความเสี่ยงสูง

ด้านธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย (เอดีบี) ก็ออกมาระบุว่า อัตราเงินเฟ้อคือความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดต่อเศรษฐกิจเอเซีย โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานฯ เอดีบี กล่าวในวันนี้ว่า เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกำลังทำให้หลายประเทศในเอเชียตกที่นั่งลำบากในการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งหากไม่มีการจัดการอย่างเหมาะสม ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงเกี่ยวกับการชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

"หลายประเทศจะเผชิญภาวะลำบากมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินซึ่งก็คือวิธีการที่จะผสมผสานอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นโดยไม่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวมากเกินไป"

ทั้งนี้ หากประเทศในเอเชียมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อส่วนต่างที่เพิ่มมากขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐก็อาจจะดึงดูดเม็ดเงินที่มีความผันผวนและกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้านราคาสินทรัพย์ โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดภาวะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ บรรดารัฐมนตรีคลังและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากราว 40 ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเอเชีย-ยุโรป กำลังประชุมกันที่เกาะเจจูของเกาหลีใต้เพื่อหารือเกี่ยวกับราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งขึ้นและผลกระทบทางเศรษฐกิจ

โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า นายราจัต เอ็ม.นัก กรรมการผู้อำนวยการเอดีบีกล่าวในการประชุมเวิลด์อิโคโนมิคฟอรั่มว่าด้วยภูมิภาคเอเซียตะวันออกวานนี้ว่า การลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันเป็นนโยบายที่ถูกต้อง แม้จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นก็ตาม

นาย เอ็ม.นัก กล่าวว่า นโยบายลดเงินอุดหนุนดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น ขณะเดียวกันรัฐบาลจำเป็นต้องช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับผลกระทบด้วย โดยการให้เงินอุดหนุนด้านการศึกษาและการรักษาพยาบาลแทน

**โกลด์แมน แซคส์ แนะจีนต้องเอาจริงแก้เงินเฟ้อ

ด้านวาณิชย์ธนกิจอันดับหนึ่งของโลกอย่างโกลด์แมน แซคส์ ก็คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนจะแข็งค่าขึ้นอีกประมาณ 10% ในปีนี้ และคาดว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ ยอมรับว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เงินหยวนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงินหลักๆในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น ขณะที่เงินสกุลอื่นๆอ่อนค่าลงอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้เกิดเงินเฟ้อไปทั่วภูมิภาคนั้น จีนกลับมีความแตกต่างเนื่องจากธนาคารกลางจีนใช้มาตรการด้านการเงินที่เข้มงวดมากกว่าและจริงจังมากกว่า

โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์อีกว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนจะร่วงลงแตะระดับ 5-6% ภายในปีนี้ หลังจากธนาคารกลางจีนสั่งการให้สถาบันการเงินภายในประเทศเพิ่มสัดส่วนสำรองสภาพคล่องแล้ว 5 ครั้งในปีนี้ และประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 6 ครั้งในปี 2550

"เราคาคว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวขึ้น 9-10% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้จีนสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่เข้าสู่วงจร boom and bust cyble อย่างแน่นอน"

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ค่าเงินหยวนของจีนจะแข็งขึ้นแตะระดับ 6.3 หยวนต่อดอลลาร์ภายใน 12 ปีข้างหน้านี้ จากระดับปัจจุบันที่ 6.9027 หยวนต่อดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น