ประธานกรรมการ " ริช เอเชีย สตีล " อัดอั้นจัดแถลงข่าว สร้างความมั่นใจนักลงทุน ยันบริษัทแข็งแกร่งรายได้-กำไรโตต่อเนื่อง หลังนักลงทุนเทขายหุ้นรูด -ข่าวรายย่อยถูกฟอร์ซเซล ชี้เข้าเก็บหุ้นเพิ่มแน่ ลั่นขณะนี้บริษัทไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน ปล่อยตามกลไกตลาด เชื่อบริษัทโตดีสะท้อนกับมาที่ราคาหุ้น คาดได้เงินขายวอแรนท์ 2 พันล้านบาท
นางสาวอังคกาญจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ RICH เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงมาและผู้ถือหุ้นของบริษัทถูกบังคับขายหุ้นออกนั้น ทางนักลงทุนรายย่อยของบริษัทก็โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเยอะเพราะกังวล ซึ่งบริษัทจึงได้แถลงข่าวเพื่อแจ้งให้กับผู้ถือหุ้น คู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท ธนาคารพาณิชย์ที่สนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัท ให้ทราบถึงผลการดำเนินงานว่ายังมีการเติบโตที่ดีแข็งแกร่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ เรื่องราคาหุ้นเป็นอีกเรื่องที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไลตลาด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุน โดยบริษัทจะเน้นทำให้บริษัทมีผลประกอบการเติบโต มีกำไรเพิ่มขึ้นก็จะสะท้อนที่ราคาหุ้นของบริษัท ซึ่งจากการสอบถามไปยังผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทก่อนที่จะขายหุ้นต่อประชาชนทั่วเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)นั้นก็ไม่มีใครขายออกมา
"นักลงทุนกลุ่มไหนออกมาบริษัทไม่ทราบเพราะ บริษัทมีผู้ถือหุ้นถึง 2,000 ราย แต่จากการปิดสมุดทะเบียนเพื่อประชุมผุ้ถือหุ้นวิสามัญเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นั้น นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังคงถือหุ้นของบริษัท 8% ส่วนตัวมีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้นเมื่อมีโอกาสแน่นอน" นางสาวอังคกาญจน์ กล่าว
สำหรับบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ในภาวะการเมืองที่ยังไม่นิ่ง และหากกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่มีรายได้รวม 4,636.38 ล้านบาท จากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นสูงอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม จากปลายปี 50 ที่ 19 บาท และบริษัทมีลูกค้าเพิ่มเพราะผู้ประกอบการรายเล็กปิดกิจการลง เพราะราคาเหล็กเพิ่มไม่สามารถจัดหาเหล็กให้กับลูกค้าได้
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ RICH กล่าวว่า บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ที่ 7-8 % จากปีก่อนที่มี 4.6% จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิปีนี้ของบริษัทจะเติบโตสูงขึ้นมาก ซึ่งในไตรมาส1/51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 64.21 ล้านบาท โดยผลขาดทุนปี 50 เป็นการขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้การค้า แต่หากเป็นผลการดำเนินงานปกติของบริษัทมีกำไร
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์) ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท5,000 ล้านหุ้น อายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ 0.40 บาท แก่ผู้ถือหุ้น 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นที่มีประมาณ 1,500 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดว่าหากผู้ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกวอร์แรนต์คาดว่าจะใช้เวลายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ประมาณ 2 เดือนในการพิจารณา
"ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งหากบริษัทมีกำไรดีขึ้นก็จะสะท้อนกับมาที่ราคาหุ้นของบริษัทเอง" นายสมเกียรติ กล่าว
นางสาวอังคกาญจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ RICH เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงมาและผู้ถือหุ้นของบริษัทถูกบังคับขายหุ้นออกนั้น ทางนักลงทุนรายย่อยของบริษัทก็โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเยอะเพราะกังวล ซึ่งบริษัทจึงได้แถลงข่าวเพื่อแจ้งให้กับผู้ถือหุ้น คู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท ธนาคารพาณิชย์ที่สนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัท ให้ทราบถึงผลการดำเนินงานว่ายังมีการเติบโตที่ดีแข็งแกร่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ เรื่องราคาหุ้นเป็นอีกเรื่องที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไลตลาด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุน โดยบริษัทจะเน้นทำให้บริษัทมีผลประกอบการเติบโต มีกำไรเพิ่มขึ้นก็จะสะท้อนที่ราคาหุ้นของบริษัท ซึ่งจากการสอบถามไปยังผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทก่อนที่จะขายหุ้นต่อประชาชนทั่วเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)นั้นก็ไม่มีใครขายออกมา
"นักลงทุนกลุ่มไหนออกมาบริษัทไม่ทราบเพราะ บริษัทมีผู้ถือหุ้นถึง 2,000 ราย แต่จากการปิดสมุดทะเบียนเพื่อประชุมผุ้ถือหุ้นวิสามัญเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นั้น นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังคงถือหุ้นของบริษัท 8% ส่วนตัวมีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้นเมื่อมีโอกาสแน่นอน" นางสาวอังคกาญจน์ กล่าว
สำหรับบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ในภาวะการเมืองที่ยังไม่นิ่ง และหากกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่มีรายได้รวม 4,636.38 ล้านบาท จากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นสูงอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม จากปลายปี 50 ที่ 19 บาท และบริษัทมีลูกค้าเพิ่มเพราะผู้ประกอบการรายเล็กปิดกิจการลง เพราะราคาเหล็กเพิ่มไม่สามารถจัดหาเหล็กให้กับลูกค้าได้
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ RICH กล่าวว่า บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ที่ 7-8 % จากปีก่อนที่มี 4.6% จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิปีนี้ของบริษัทจะเติบโตสูงขึ้นมาก ซึ่งในไตรมาส1/51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 64.21 ล้านบาท โดยผลขาดทุนปี 50 เป็นการขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้การค้า แต่หากเป็นผลการดำเนินงานปกติของบริษัทมีกำไร
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์) ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท5,000 ล้านหุ้น อายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ 0.40 บาท แก่ผู้ถือหุ้น 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นที่มีประมาณ 1,500 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดว่าหากผู้ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกวอร์แรนต์คาดว่าจะใช้เวลายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ประมาณ 2 เดือนในการพิจารณา
"ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งหากบริษัทมีกำไรดีขึ้นก็จะสะท้อนกับมาที่ราคาหุ้นของบริษัทเอง" นายสมเกียรติ กล่าว
