xs
xsm
sm
md
lg

คาดจัดเก็บรายได้ 4 เดือนหลังแผ่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คลังโชว์ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณจัดเก็บรายได้รวม 1 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 3.1% ผลจากการจัดเก็บภาษีจากกรมสรรพากรและกรมศุลกากรที่สูงกว่าประมาณการโดยเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้า คาดว่าช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนขยายตัวไม่มากนัก เหตุได้รับผลกระทบจากมาตรการด้านภาษีของรัฐบาล แต่ยังมั่นใจทั้งปีเก็บได้ตามเป้าที่วางไว้

นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนพฤษภาคม 2551 ว่า มียอดจัดเก็บจำนวน 273,274 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 24,808 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม 2550 – พฤษภาคม 2551) รัฐบาลจัดเก็บรายได้รวม 1,033,845 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 31,487 ล้านบาท

ทั้งนี้ เดือนพฤษภาคม 2551 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 273,274 ล้านบาท สูงกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 24,808 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 สาเหตุสำคัญเนื่องจากเดือนนี้เป็นเดือนที่ครบกำหนดการยื่นชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิของนิติบุคคลสิ้นรอบปีบัญชี 2550 ซึ่งปรากฏว่า การยื่นชำระภาษีดังกล่าวสูงกว่าที่คาดไว้ ทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงกว่าประมาณการเป็นจำนวนถึง 25,598 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.5

อย่างไรก็ดี มีภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีธุรกิจ เฉพาะ เป็นผลจากมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ และภาษีน้ำมันซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง รวมทั้งผู้บริโภคหันไปใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น

สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,033,845 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 31,487ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 หรือสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.8 ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากกรมสรรพากรและกรมศุลกากรที่สูงกว่าประมาณการเป็นสาเหตุหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้า

โดยผลการจัดเก็บรายได้แยกตามหน่วยงานจัดเก็บ ในส่วนกรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 820,631 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 44,083 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.7 ซึ่งมีภาษีที่เก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 40,361 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.4 รวมทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 10,858 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.4 เป็นผลจากการนำเข้าและการบริโภคที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องประกอบกับราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย จากการดำเนินนโยบายทางด้านภาษีของรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับการลดลงของอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับจากธุรกรรมบางประเภทของสถาบันการเงิน

ด้านกรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 194,980 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,791 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 จากภาษียาสูบจัด รวมทั้งภาษีเบียร์ก็จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย อย่างไรก็ดี ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีสุรา และภาษีน้ำมันยังจัดเก็บได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และกรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 64,984 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6,494 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.1 โดยอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 5,990 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.4

และรัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 69,163 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 14,556 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.4 สาเหตุสำคัญมาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการประมาณ 5,000 ล้านบาท และบริษัท ทีโอทีฯ กับบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ยังไม่นำส่งรายได้ตามปกติ

นายสมชัยกล่าวอีกว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 แม้ว่าจะสูงกว่าประมาณการร้อยละ 3.1 แต่จากการคาดการณ์แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในในช่วง 4 เดือนหลังคาดว่าอาจจะไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเหมือนในช่วงแรก เนื่องจากจะมีผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลต่อการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมทั้งการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังคาดว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 1.495 ล้านล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น