CBRE ระบุนักลงทุนตางชาติไม่สนภาวะการเมืองไทย ชี้อสังหาฯเมืองไทยยังน่าลงทุนโดยเฉพาะทุนจากตะวันออกกลาง เผยตลาดหรูยังไปได้ ยอดขาย 5 เดือนแรก กว่า 6,000 ล้านบาท แถมมีดิวขายอสังหาฯขนาดใหญ่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตที่ดี บนพื้นฐานที่ไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายทางการเมืองหรือมีการปฏิวัติแบบนองเลือดเกิดขึ้น โดยตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโต ได้แก่ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ทที่อิงกับการท่องเที่ยว เพราะไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง สำหรับเกียษรอายุหรือเพื่อลงทุน นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยระดับบนตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ตามแนวรถฟ้ายังมีทิศทางที่ดี
ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว อีกทั้งยังมีภาวะค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้กำลังซื้อบ้านของผู้บริโภคลดลง ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อตลาดที่ผู้ซื้อต้องขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน หรือตลาดระดับกลาง-ล่าง นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่ของภาคอสังหาฯ อีกประการณ์ คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องขยับราคาขายขึ้นตาม ซึ่งเป็นผลให้กลุ่มลูกค้าต้องเปลี่ยนไปตามราคาขาย ตลาดต้องเปลี่ยนตาม ส่วนราคาที่ดินจะไม่หวือหวา หรือปรับได้ทุกทำเล สำหรับทำเลที่ไม่มีศักยภาพราคาจะทรงตัว ส่วนทำเลแนวรถไฟฟ้า หรือกลางเมืองราคาจะยังคงปรับขึ้นไปได้อีก
สำหรับตลาดระดับบนยังไม่กระทบ เพราะจากยอดขายของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขายแล้ว 300 ยูนิต มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท และในเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้จัดงาน สยามพารากอน พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส เป็นการนำโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนขาย มียอดขายภายในงานเกือบ 700 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติซื้อกว่า 50% ขณะที่งานในปี 50 มียอดขายเพียง 250 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าตลาดระดับบนยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
นางสาวอลิวัสสา กล่าวต่อว่า สำหรับการซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนปัจจุบันตลาดยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ส่วนเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง การประท้วงแบบไม่นองเลือดและไม่ปฏิวัติ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเมืองไทย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นเวลานานหรือนักลงทุนที่เป็นมืออาชีพ จะไม่กังวลปัญหาการเมืองภายในของไทย แต่มองว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ลดต้นทุนหรือพิจารณาจากผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนมากกว่า นอกจากนี้คนไทยยังเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่มีความรุนแรง ส่วนนักลงทุนหน้าใหม่หรือนักลงทุนรุ่นใหม่จะยังมีความกังวลอยู่บ้าง
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในปัจจุบัน อันดับต้นๆ มาจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งมาทั้งในรูปแบบนักลงทุนทั่วไป และการลงทุนผ่านกองทุนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนจาก ฮ่องกงและสิงคโปร์ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของกองทุน
นางอลิวัสสา กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อ-ขายอสังหาฯ โครงการขนาดใหญ่ ระหว่างไทยและต่างชาติ หลายโครงการ แต่ที่คาดว่าน่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท เช่น ที่ดินย่านเซ็นหลุย ของบมจ.เมโทร สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ มีนักลงทุนเข้ามาซื้อซองประมูลเกือบ 10 ราย โดยจะเปิดซองประมูลภายในสัปดาห์นี้ อีก 2 โครงการเป็นการเจรจาซื้ออาคาร และเป็นการร่วมทุนอีก 1 โครงการ
สำหรับผลการดำเนินงานของ CBRE ในปีที่ผ่านมาสามารถปิดการขายได้ถึง 1,600 รายการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 7% เนื่องจากมีฐานเดิมที่ใหญ่ทำให้ตัวเลขการเติบโตน้อยลง โดยยังคงให้บริการตัวแทนซื้อ-ขาย ที่ปรึกษา บริหารจัดการเช่าในตลาดอสังหาฯระดับบนทุกประเภท ส่วนตลาดหลักเช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป ยุโรปตะวันออก ฮ่องกงและสิงคโปร์
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตที่ดี บนพื้นฐานที่ไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายทางการเมืองหรือมีการปฏิวัติแบบนองเลือดเกิดขึ้น โดยตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโต ได้แก่ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ทที่อิงกับการท่องเที่ยว เพราะไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง สำหรับเกียษรอายุหรือเพื่อลงทุน นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยระดับบนตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ตามแนวรถฟ้ายังมีทิศทางที่ดี
ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว อีกทั้งยังมีภาวะค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้กำลังซื้อบ้านของผู้บริโภคลดลง ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อตลาดที่ผู้ซื้อต้องขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน หรือตลาดระดับกลาง-ล่าง นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่ของภาคอสังหาฯ อีกประการณ์ คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องขยับราคาขายขึ้นตาม ซึ่งเป็นผลให้กลุ่มลูกค้าต้องเปลี่ยนไปตามราคาขาย ตลาดต้องเปลี่ยนตาม ส่วนราคาที่ดินจะไม่หวือหวา หรือปรับได้ทุกทำเล สำหรับทำเลที่ไม่มีศักยภาพราคาจะทรงตัว ส่วนทำเลแนวรถไฟฟ้า หรือกลางเมืองราคาจะยังคงปรับขึ้นไปได้อีก
สำหรับตลาดระดับบนยังไม่กระทบ เพราะจากยอดขายของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขายแล้ว 300 ยูนิต มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท และในเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้จัดงาน สยามพารากอน พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส เป็นการนำโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนขาย มียอดขายภายในงานเกือบ 700 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติซื้อกว่า 50% ขณะที่งานในปี 50 มียอดขายเพียง 250 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าตลาดระดับบนยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
นางสาวอลิวัสสา กล่าวต่อว่า สำหรับการซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนปัจจุบันตลาดยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ส่วนเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง การประท้วงแบบไม่นองเลือดและไม่ปฏิวัติ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเมืองไทย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นเวลานานหรือนักลงทุนที่เป็นมืออาชีพ จะไม่กังวลปัญหาการเมืองภายในของไทย แต่มองว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ลดต้นทุนหรือพิจารณาจากผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนมากกว่า นอกจากนี้คนไทยยังเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่มีความรุนแรง ส่วนนักลงทุนหน้าใหม่หรือนักลงทุนรุ่นใหม่จะยังมีความกังวลอยู่บ้าง
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในปัจจุบัน อันดับต้นๆ มาจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งมาทั้งในรูปแบบนักลงทุนทั่วไป และการลงทุนผ่านกองทุนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนจาก ฮ่องกงและสิงคโปร์ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาในรูปแบบของกองทุน
นางอลิวัสสา กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อ-ขายอสังหาฯ โครงการขนาดใหญ่ ระหว่างไทยและต่างชาติ หลายโครงการ แต่ที่คาดว่าน่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท เช่น ที่ดินย่านเซ็นหลุย ของบมจ.เมโทร สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ มีนักลงทุนเข้ามาซื้อซองประมูลเกือบ 10 ราย โดยจะเปิดซองประมูลภายในสัปดาห์นี้ อีก 2 โครงการเป็นการเจรจาซื้ออาคาร และเป็นการร่วมทุนอีก 1 โครงการ
สำหรับผลการดำเนินงานของ CBRE ในปีที่ผ่านมาสามารถปิดการขายได้ถึง 1,600 รายการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 7% เนื่องจากมีฐานเดิมที่ใหญ่ทำให้ตัวเลขการเติบโตน้อยลง โดยยังคงให้บริการตัวแทนซื้อ-ขาย ที่ปรึกษา บริหารจัดการเช่าในตลาดอสังหาฯระดับบนทุกประเภท ส่วนตลาดหลักเช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป ยุโรปตะวันออก ฮ่องกงและสิงคโปร์
