รายงานข่าวบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวของบริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH ที่ "A+(tha)" และอันดับเครดิตระยะสั้นที่ "F1(tha)" การประกาศคงอันดับเครดิตในครั้งนี้ได้ครอบคลุมถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ในประเทศของบริษัท โดยหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิคงอันดับเครดิตที่ ‘A+(tha)’ ส่วนหุ้นกู้ที่มีหลักประกันคงอันดับเครดิตที่ ‘AA-(tha)’ (AA ลบ (tha)) และแนวโน้มเครดิตของบริษัทมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ PTTCH สะท้อนถึงความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจและการดำเนินการที่มีในระดับที่สูงกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจาก PTTCH เป็นผู้ดำเนินการหลักสำหรับกลุ่ม ปตท. ในธุรกิจปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ PTTCH ยังมีสัญญาการจัดซื้อวัตถุดิบในระยะยาวโดยมีโครงสร้างของราคาแบบ Profit Sharing กับ ปตท. และยังมีการขายในลักษณะ Off-take Agreement กับ ปตท. อีกด้วย
รวมทั้งยังสะท้อนถึงการที่ PTTCH มีขนาดของกิจการที่ใหญ่และการเข้าไปลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่องเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้รวมและช่วยลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงการที่ PTTCH มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องทางการเงินที่ดี อันเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินโดยเฉพาะในช่วงที่มีการขยายการลงทุนที่สูงในปัจจุบัน
ถึงอย่างไรก็ตาม บริษัทมีปัจจัยความเสี่ยงทางด้านความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าวัฏจักรอุตสาหกรรมจะอยู่ในช่วงขาลงและการที่ PTTCH ขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดในประเทศ ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในด้านการพึ่งพาตลาดเพียงตลาดเดียวค่อนข้างสูง นอกจากนี้ PTTCH ยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานก่อสร้าง (Execution Risk) ของโครงการลงทุนใหม่ที่มีเงินลงทุนอยู่ในระดับสูงถึง 8.53 หมื่นล้านบาทด้วย
ส่วนแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการขยายกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนต่อหน่วยลดลง (Economy of Scale) การสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการลงทุนในผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ สัญญาการจัดซื้อวัตถุดิบกับ ปตท. ที่ให้ประโยชน์แก่บริษัท โดยปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่บริษัทในช่วงที่ธุรกิจปิโตรเคมีอยู่ในช่วงวัฎจักรขาลงและยังสามารถลดความผันผวนของความสามารถในการทำกำไรลงได้ อันจะทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับของอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันได้
ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ PTTCH สะท้อนถึงความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจและการดำเนินการที่มีในระดับที่สูงกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจาก PTTCH เป็นผู้ดำเนินการหลักสำหรับกลุ่ม ปตท. ในธุรกิจปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ PTTCH ยังมีสัญญาการจัดซื้อวัตถุดิบในระยะยาวโดยมีโครงสร้างของราคาแบบ Profit Sharing กับ ปตท. และยังมีการขายในลักษณะ Off-take Agreement กับ ปตท. อีกด้วย
รวมทั้งยังสะท้อนถึงการที่ PTTCH มีขนาดของกิจการที่ใหญ่และการเข้าไปลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่องเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้รวมและช่วยลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงการที่ PTTCH มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องทางการเงินที่ดี อันเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินโดยเฉพาะในช่วงที่มีการขยายการลงทุนที่สูงในปัจจุบัน
ถึงอย่างไรก็ตาม บริษัทมีปัจจัยความเสี่ยงทางด้านความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าวัฏจักรอุตสาหกรรมจะอยู่ในช่วงขาลงและการที่ PTTCH ขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดในประเทศ ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในด้านการพึ่งพาตลาดเพียงตลาดเดียวค่อนข้างสูง นอกจากนี้ PTTCH ยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานก่อสร้าง (Execution Risk) ของโครงการลงทุนใหม่ที่มีเงินลงทุนอยู่ในระดับสูงถึง 8.53 หมื่นล้านบาทด้วย
ส่วนแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการขยายกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนต่อหน่วยลดลง (Economy of Scale) การสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการลงทุนในผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ สัญญาการจัดซื้อวัตถุดิบกับ ปตท. ที่ให้ประโยชน์แก่บริษัท โดยปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่บริษัทในช่วงที่ธุรกิจปิโตรเคมีอยู่ในช่วงวัฎจักรขาลงและยังสามารถลดความผันผวนของความสามารถในการทำกำไรลงได้ อันจะทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับของอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันได้